ติดต่อลงโฆษณา [email protected]

แสดงกระทู้

ส่วนนี้จะช่วยให้คุณสามารถดูกระทู้ทั้งหมดสมาชิกนี้ โปรดทราบว่าคุณสามารถเห็นเฉพาะกระทู้ในพื้นที่ที่คุณเข้าถึงในขณะนี้


ข้อความ - sgethai

หน้า: 1 ... 9 10 [11] 12 13
301
**ท่อ PPR คืออะไร**

ท่อ PPR (Polypropylene Random Copolymer) คือท่อพลาสติกที่ผลิตจากเม็ดพลาสติกโพลีโพรไพลีน (PP) ชนิด Random Copolymer ซึ่งเป็นพลาสติกคุณภาพสูง มีความแข็งแรง ทนทานต่อแรงดัน ความร้อน และสารเคมี ท่อ PPR นิยมใช้ในงานระบบประปา ทั้งน้ำร้อนและน้ำเย็น รวมถึงงานระบบท่ออื่นๆ เช่น ระบบทำความเย็น ระบบทำความร้อน เป็นต้น

**คุณสมบัติของท่อ PPR**

* มีความแข็งแรง ทนทานต่อแรงดัน ความร้อน และสารเคมี
* ทนทานต่อการเกิดสนิมและตะกรัน
* ไม่เป็นสื่อนำไฟฟ้า
* ปลอดสารพิษ
* สะอาด ถูกสุขอนามัย
* น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย
* มีราคาไม่แพง

**ประเภทของท่อ PPR**

ท่อ PPR แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ตามชั้นความดัน คือ

* **ท่อ PPR ชนิด PN10** ทนแรงดันได้ 10 บาร์ เหมาะสำหรับงานระบบประปาน้ำเย็นและน้ำร้อน

* **ท่อ PPR ชนิด PN20** ทนแรงดันได้ 20 บาร์ เหมาะสำหรับงานระบบประปาน้ำร้อนที่มีแรงดันสูง


**ข้อดีของการใช้ท่อ PPR**

ท่อ PPR มีข้อดีหลายประการ ดังนี้

* มีความแข็งแรง ทนทาน จึงมีอายุการใช้งานยาวนาน
* ทนต่อแรงดันและอุณหภูมิสูง จึงเหมาะสำหรับงานระบบประปาน้ำร้อน
* ไม่เป็นสื่อนำไฟฟ้า จึงปลอดภัยจากไฟฟ้าช็อต
* ปลอดสารพิษ จึงปลอดภัยต่อสุขภาพ
* สะอาด ถูกสุขอนามัย จึงเหมาะสำหรับใช้ในงานระบบประปา
* น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย จึงประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย

**การใช้งานท่อ PPR**

ท่อ PPR นิยมใช้ในงานระบบประปา ทั้งน้ำร้อนและน้ำเย็น รวมถึงงานระบบท่ออื่นๆ เช่น ระบบทำความเย็น ระบบทำความร้อน เป็นต้น ตัวอย่างการใช้งานท่อ PPR มีดังนี้

* ระบบประปาภายในอาคาร เช่น ท่อน้ำประปา ท่อน้ำร้อน ท่อน้ำเย็น
* ระบบประปาภายนอกอาคาร เช่น ท่อน้ำประปาในสวน ท่อน้ำประปาในโรงงานอุตสาหกรรม
* ระบบทำความเย็น เช่น ท่อน้ำยาแอร์
* ระบบทำความร้อน เช่น ท่อน้ำร้อนในระบบทำความร้อน

**สรุป**

ท่อ PPR เป็นท่อพลาสติกคุณภาพสูงที่มีคุณสมบัติเด่นหลายประการ จึงนิยมใช้ในงานระบบประปาและงานระบบท่ออื่นๆ ท่อ PPR มีข้อดีหลายประการ เช่น มีความแข็งแรง ทนทานต่อแรงดัน ความร้อน
และสารเคมี ทนทานต่อการเกิดสนิมและตะกรัน ไม่เป็นสื่อนำไฟฟ้า ปลอดสารพิษ สะอาด ถูกสุขอนามัย และน้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย

โปรโมชั่นสำหรับคุณ เครื่องเชื่อมท่อ ppr ท่อppr คือppr pipeขนาดท่อ ppr

302
รั้วตะแกรงเหล็กซิงค์อลู

รั้วตะแกรงเหล็กซิงค์อลู
คุณสมบัติและลักษณะ
รั้วตะแกรงเหล็กสำเร็จรูปออกแบบพิเศษ เพิ่มความแข็งแรงทนทาน ติดตั้งง่าย สะดวก รวดเร็ว ผลิตจากลวดชุบซิงค์อลู (ผสมอลูมิเนียม 10%) ตามมาตรฐานยุโรป (BS EN) กผ่านการเชื่อมด้วยเครื่องจักรเทคโนโลยีสูง ทำให้ทุกจุดของรอยเชื่อมหลอมติดแน่นเป็นเนื้อเดียวกัน ตัวเสารั้วและฝาครอบออกแบบให้สี่เหลี่ยม ผลิตจากเหล็กชุบซิงค์เคลือบสีฝุ่นเพื่อเพิ่มอายุการใช้งาน อุปกรณ์ยึดตะแกรงเหล็กกับเสารั้วด้วยตัวยึดพิเศษ Spider ผลิตจากเหล็กชุบซิงค์และเคลือบสีฝุ่น พร้อมน๊อต (Security Bolt) ผลิตจากสแตนเลส ทำให้เสารั้วกับตะแกรงเหล็กยึดกันแน่นหนา แข็งแรง ไม่หลุด และทนสนิม
วิธีการใช้งาน
สามารถใช้งานได้หลากหลาย นิยมนำมาใช้ล้อมรั้วทางด่วน รั้วสนามบิน รั้วโรงงาน รั้วที่ดิน รั้วกั้นอาณาเขต หรือแม้แต่รั้วที่อยู่อาศัย
อายุการใช้งาน
อายุการใช้งานยาวนานเมื่อเทียบกับรั้วตะแกรงเหล็กทั่วไป อายุการใช้งานนาน 10 ปี
ข้อดี
แข็งแรงทนทาน และเหนียวกว่ารั้วตะแกรงเหล็ดทั่วไป
ลักษณะผิวของลวดมีความเรียบสม่ำเสมอ ทนสนิมมากกว่ารั้วตะแกรงเหล็กชุบซิงค์ทั่วไป 14 เท่า
สามารถทนทานสนิมได้ทุกสภาพอากาศ
มีระบบป้องกันความปลอดภัยในการถอด ทำให้มั่นใจได้ว่าเสารั้วและตะแกรงเหล็กจะยึดติดกันอย่างแน่นหนา แข็งแรง ไม่หลุด
ราคาต้นทุน
เริ่มต้นเมตรละ 113 บาท (ขึ้นอยู่กับความสูงของตาข่าย)
โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย ลวดหนาม
ที่มา https://tb.co.th/

303

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง คืออะไร

คือ ภาษีรายปีที่เก็บและคิดจากมูลค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้างที่เราครอบครอง โดยมีองค์กรท้องถิ่น เช่น เทศบาล อบต. เป็นผู้จัดเก็บ

โดยผู้ที่ต้องเสียภาษีที่ดินต้องมีเงื่อนไขดังนี้

1. เจ้าของกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ (ดูตามโฉนด ไม่ใช่ทะเบียนบ้าน)

2. ผู้ครอบครอง/ทำประโยชน์ในที่ดินนั้น จะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลก็ได้

ซึ่งกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 2562 เป็นกฎหมายที่มาแทนที่ ภาษีโรงเรือนและที่ดิน กับ ภาษีบำรุงท้องที่ ซึ่งซ้ำซ้อนกัน

ประเภทของภาษีที่ดิน 2566 แบ่งประเภทที่ดินที่ต้องเสียภาษีไว้ 4 รายการ

1. ที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม

2. ที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย

3. ที่ดินเพื่อพาณิชยกรรม

4. ที่ดินรกร้างว่างเปล่า

โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย รั้วแรงดึง

ที่มา www.kwilife.com

304
**พันธุ์ปลาที่เหมาะเลี้ยง**

การเลี้ยงปลาเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมของคนทุกเพศทุกวัย เนื่องจากเป็นกิจกรรมที่ให้ความเพลิดเพลิน ผ่อนคลาย และยังสามารถเป็นแหล่งอาหารที่ดีอีกด้วย การเลือกพันธุ์ปลาที่เหมาะเลี้ยงนั้น จะต้องคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้

* **วัตถุประสงค์ในการเลี้ยง** ว่าต้องการเลี้ยงปลาเพื่อความสวยงาม เพื่อการบริโภค หรือเพื่อการศึกษา
* **ขนาดของสระเลี้ยง** หากเลี้ยงในสระขนาดใหญ่ ก็สามารถเลี้ยงปลาที่มีขนาดใหญ่ได้ หากเลี้ยงในสระขนาดเล็ก ควรเลี้ยงปลาที่มีขนาดเล็ก
* **อุณหภูมิของน้ำ** ปลาแต่ละสายพันธุ์จะทนต่ออุณหภูมิของน้ำที่แตกต่างกัน
* **ปริมาณออกซิเจนในน้ำ** ปลาแต่ละสายพันธุ์ต้องการปริมาณออกซิเจนในน้ำที่แตกต่างกัน
* **ความเค็มของน้ำ** ปลาแต่ละสายพันธุ์ต้องการความเค็มของน้ำที่แตกต่างกัน
* **พฤติกรรมของปลา** ปลาแต่ละสายพันธุ์มีพฤติกรรมที่แตกต่างกัน เช่น ปลาบางชนิดชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง ปลาบางชนิดชอบอยู่ตามลำพัง

**พันธุ์ปลาที่นิยมเลี้ยง**

พันธุ์ปลาที่นิยมเลี้ยงในประเทศไทยมีมากมาย ดังนี้

* **ปลาสวยงาม** เช่น ปลาทอง ปลาหางนกยูง ปลาสอด ปลาหมอสี ปลากัด เป็นต้น
* **ปลาเศรษฐกิจ** เช่น ปลานิล ปลาดุก ปลาตะเพียน ปลาช่อน เป็นต้น
* **ปลาอื่น ๆ** เช่น ปลากะพง ปลาเก๋า ปลาหมอทะเล เป็นต้น

**ตัวอย่างพันธุ์ปลาที่เหมาะเลี้ยง**

* **ปลาทอง** เป็นปลาที่เลี้ยงง่าย ทนต่อสภาพอากาศได้ดี เหมาะสำหรับการเลี้ยงในสระขนาดเล็ก
* **ปลาหางนกยูง** เป็นปลาที่เลี้ยงง่าย ทนต่อสภาพอากาศได้ดี เหมาะสำหรับการเลี้ยงในสระขนาดเล็ก
* **ปลาสอด** เป็นปลาที่เลี้ยงง่าย ทนต่อสภาพอากาศได้ดี เหมาะสำหรับการเลี้ยงในสระขนาดเล็ก
* **ปลาหมอสี** เป็นปลาที่เลี้ยงง่าย ทนต่อสภาพอากาศได้ดี เหมาะสำหรับการเลี้ยงในสระขนาดใหญ่
* **ปลากัด** เป็นปลาที่เลี้ยงง่าย ทนต่อสภาพอากาศได้ดี เหมาะสำหรับการเลี้ยงในภาชนะขนาดเล็ก

**ข้อควรระวังในการเลี้ยงปลา**

* ควรหมั่นทำความสะอาดสระเลี้ยงปลาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการสะสมของสิ่งสกปรกที่อาจทำให้เกิดโรคในปลา
* ควรให้อาหารปลาในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากหรือน้อยเกินไป
* ควรสังเกตพฤติกรรมของปลา หากพบปลาที่มีอาการผิดปกติ ควรรีบแยกเลี้ยงและรักษา

การเลือกพันธุ์ปลาที่เหมาะเลี้ยงนั้น มีความสำคัญต่อความสำเร็จในการเลี้ยงปลา หากเลือกพันธุ์ปลาที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และวัตถุประสงค์ในการเลี้ยง จะช่วยให้ปลาเจริญเติบโตได้ดีและลดความเสี่ยงในการเกิดโรค

โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนาม รั้วลวดหนาม

305
ปลูกผักหลังบ้าน

การปลูกผักหลังบ้านเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ทุกคน ไม่ว่าจะมีพื้นที่มากหรือน้อยก็สามารถปลูกผักได้ การปลูกผักหลังบ้านเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพกายและใจ อีกทั้งยังช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย

ประโยชน์ของการปลูกผักหลังบ้าน

การปลูกผักหลังบ้านมีประโยชน์มากมาย ดังนี้

เป็นแหล่งวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย ผักสดอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น วิตามินซี วิตามินเอ แคลเซียม เหล็ก เป็นต้น วิตามินและแร่ธาตุเหล่านี้มีส่วนช่วยในการบำรุงร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และป้องกันโรคต่างๆ
ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรัง ผักมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันเซลล์ไม่ให้ถูกทำลายจากอนุมูลอิสระ อนุมูลอิสระเป็นสาเหตุของการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน เป็นต้น
ช่วยลดน้ำหนัก ผักมีกากใยสูง ช่วยทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว จึงช่วยลดปริมาณอาหารและแคลอรีที่รับประทานเข้าไป ส่งผลให้น้ำหนักลดลง
เป็นกิจกรรมที่ผ่อนคลายและสร้างความสุข การปลูกผักเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้จิตใจสงบ ผ่อนคลาย และสร้างความสุขให้กับตนเองและครอบครัว
ขั้นตอนการปลูกผักหลังบ้าน

การปลูกผักหลังบ้านสามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้

เลือกพื้นที่ที่เหมาะสม พื้นที่สำหรับปลูกผักควรเป็นพื้นที่ที่มีแสงแดดส่องถึงอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน
เตรียมดิน ดินสำหรับปลูกผักควรเป็นดินร่วนซุย มีอินทรียวัตถุสูง
เลือกพันธุ์ผักที่เหมาะสม เลือกพันธุ์ผักที่เหมาะกับสภาพอากาศและพื้นที่ปลูก
หว่านหรือปลูกเมล็ด หว่านหรือปลูกเมล็ดผักตามคำแนะนำของฉลากบรรจุภัณฑ์
รดน้ำและดูแลอย่างสม่ำเสมอ รดน้ำให้ผักชุ่มชื้นอยู่เสมอ และดูแลกำจัดวัชพืช
ผักที่ปลูกง่าย

ผักที่ปลูกง่าย ได้แก่ ผักสวนครัวทั่วไป เช่น ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักกาดหอม ผักชี ต้นหอม มะเขือเทศ แตงกวา เป็นต้น ผักเหล่านี้ปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก และสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ภายใน 1-2 เดือน

เคล็ดลับในการทำสวนปลูกผัก

ควรเลือกผักที่เหมาะกับสภาพอากาศและพื้นที่ปลูก เพื่อให้ผักเจริญเติบโตได้ดี
ควรเตรียมดินให้พร้อมก่อนปลูกผัก โดยใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปในดินเพื่อเพิ่มอินทรียวัตถุ
ควรรดน้ำผักอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรรดน้ำมากเกินไป เพราะจะทำให้รากผักเน่า
ควรกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ เพราะวัชพืชแย่งสารอาหารและน้ำจากผัก
ควรหมั่นสังเกตผัก หากพบโรคและแมลงควรรีบกำจัดให้ทันเวลา
การทำสวนปลูกผักหลังบ้านเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ทุกคน ไม่ว่าจะมีพื้นที่มากหรือน้อยก็สามารถปลูกผักได้ การปลูกผักหลังบ้านเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพกายและใจ อีกทั้งยังช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย
โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนามรั้วลวดหนาม

306

**ที่ดินมีค่า**

ที่ดินเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่หายากและมีค่า มีจำกัด ไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้ ที่ดินจึงเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงและมักมีราคาที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สาเหตุที่ทำให้ที่ดินมีค่านั้นมีหลายประการ ได้แก่

* **ความต้องการที่ดินมีมากขึ้น** เนื่องด้วยจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น ความต้องการที่อยู่อาศัย พื้นที่อุตสาหกรรม พื้นที่พาณิชย์ พื้นที่การเกษตร ฯลฯ จึงมีมากขึ้นตามไปด้วย ส่งผลให้ความต้องการที่ดินมีมากขึ้นเช่นกัน
* **พื้นที่ที่ดินมีจำกัด** ที่ดินเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่หายากและไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้ พื้นที่ที่ดินที่มีอยู่จึงมีจำกัด ส่งผลให้ที่ดินมีมูลค่าสูง
* **สภาพเศรษฐกิจและสังคมที่ดีขึ้น** การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ทำให้ผู้คนมีรายได้สูงขึ้น ความต้องการที่จะซื้อที่ดินเพื่ออยู่อาศัย ลงทุน ฯลฯ จึงมีมากขึ้นเช่นกัน ส่งผลให้ที่ดินมีมูลค่าสูงขึ้น

ที่ดินมีมูลค่าสูงและมักมีราคาที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นสินทรัพย์ที่มีศักยภาพในการลงทุน สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ลงทุนในระยะยาว อย่างไรก็ตาม การลงทุนในที่ดินก็ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบ เช่น ทำเลที่ตั้งของที่ดิน สภาพเศรษฐกิจและสังคมในอนาคต แนวโน้มความต้องการที่ดิน ฯลฯ เพื่อให้การลงทุนประสบความสำเร็จ

**ประโยชน์ของที่ดิน**

ที่ดินมีประโยชน์มากมาย ดังนี้

* **เป็นที่อยู่อาศัย** ที่ดินเป็นพื้นที่ที่มนุษย์ใช้ในการสร้างที่อยู่อาศัย บ้านเรือน อาคารต่างๆ
* **เป็นพื้นที่ทำการเกษตร** ที่ดินเป็นพื้นที่ที่ใช้ในการปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ เพื่อทำการเกษตร
* **เป็นพื้นที่อุตสาหกรรม** ที่ดินเป็นพื้นที่ที่ใช้ในการก่อสร้างโรงงาน โรงผลิตสินค้าต่างๆ
* **เป็นพื้นที่การค้าและบริการ** ที่ดินเป็นพื้นที่ที่ใช้ในการก่อสร้างร้านค้า ห้างสรรพสินค้า โรงแรม ฯลฯ
* **เป็นพื้นที่สาธารณูปโภค** ที่ดินเป็นพื้นที่ที่ใช้ในการก่อสร้างถนน สะพาน สนามบิน ฯลฯ

ที่ดินจึงเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีคุณค่าและมีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์
โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนาม ตาข่ายถัก

307
**เลี้ยงแมว สัตว์เลี้ยงแสนรัก เป็นเพื่อนคู่ใจ**

แมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นสัตว์ที่น่ารัก ขี้อ้อน และสามารถเข้ากับคนได้ดี การเลี้ยงแมวเป็นกิจกรรมที่สร้างความเพลิดเพลินและความสุขให้กับเจ้าของเป็นอย่างมาก

**การเตรียมการเลี้ยงแมว**

ก่อนเลี้ยงแมวควรเตรียมการดังนี้

* **ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับแมว** ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสายพันธุ์แมว นิสัยและความต้องการพื้นฐานของแมว เพื่อให้สามารถเลี้ยงแมวได้อย่างเหมาะสม
* **เตรียมความพร้อมด้านสถานที่** ควรเตรียมพื้นที่สำหรับเลี้ยงแมวให้เพียงพอกับขนาดของแมว
* **เตรียมอุปกรณ์สำหรับเลี้ยงแมว** ควรเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับเลี้ยงแมว เช่น อาหาร น้ำดื่ม กระบะทราย เปลนอน ของเล่น เป็นต้น

**การดูแลรักษาแมว**

การดูแลรักษาแมวสามารถทำได้ดังนี้

* **ให้อาหารแมว** ควรให้อาหารแมวอย่างสม่ำเสมอ อาหารแมวควรมีครบถ้วนทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน และเกลือแร่
* **ให้น้ำดื่มแมว** ควรให้น้ำดื่มแมวอย่างสะอาดและเพียงพอ
* **ทำความสะอาดกระบะทรายแมว** ควรทำความสะอาดกระบะทรายแมวทุกวัน
* **พาแมวไปตรวจสุขภาพ** ควรพาแมวไปตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย

**ข้อดีของการเลี้ยงแมว**

* เป็นสัตว์ที่น่ารัก ขี้อ้อน และสามารถเข้ากับคนได้ดี
* สามารถช่วยบำบัดความเครียดและโรคซึมเศร้าได้
* สามารถช่วยกำจัดหนูและแมลงในบ้านได้

**ข้อเสียของการเลี้ยงแมว**

* อาจก่อให้เกิดปัญหาด้านมลภาวะได้ เช่น กลิ่นมูลแมว เป็นต้น
* อาจก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาได้ เช่น ค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่ายา เป็นต้น

**ช่องทางการหาแมวมาเลี้ยง**

สามารถหาแมวมาเลี้ยงได้จากแหล่งต่างๆ ดังนี้

* ซื้อจากฟาร์มแมว
* รับเลี้ยงจากสถานสงเคราะห์สัตว์
* หามาเลี้ยงจากเพื่อนหรือญาติ

การเลี้ยงแมวเป็นกิจกรรมที่สร้างความเพลิดเพลินและความสุขให้กับเจ้าของเป็นอย่างมาก เพียงศึกษาข้อมูลและเตรียมการอย่างรอบคอบก็สามารถเลี้ยงแมวให้มีความสุขได้

**เคล็ดลับการเลี้ยงแมว**

* ควรให้ความรักและความเอาใจใส่แก่แมวอย่างสม่ำเสมอ
* ควรฝึกสอนแมวให้เชื่อฟังคำสั่ง เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
* ควรพาแมวไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคเป็นประจำ
* ควรหมั่นทำความสะอาดบ้านอยู่เสมอ เพื่อกำจัดกลิ่นมูลแมวและป้องกันโรคติดต่อ

การเลี้ยงแมวเป็นกิจกรรมที่ต้องใช้ความอดทนและความเข้าใจ หากสามารถเลี้ยงแมวได้อย่างเหมาะสมแล้ว แมวจะเป็นสัตว์เลี้ยงที่แสนรักและเป็นเพื่อนคู่ใจที่ดีให้กับเจ้าของ

โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย รั้วแรงดึง

308
**พันธุ์ปลาที่เหมาะเลี้ยง**

การเลี้ยงปลาเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมของคนทุกเพศทุกวัย เนื่องจากเป็นกิจกรรมที่ให้ความเพลิดเพลิน ผ่อนคลาย และยังสามารถเป็นแหล่งอาหารที่ดีอีกด้วย การเลือกพันธุ์ปลาที่เหมาะเลี้ยงนั้น จะต้องคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้

* **วัตถุประสงค์ในการเลี้ยง** ว่าต้องการเลี้ยงปลาเพื่อความสวยงาม เพื่อการบริโภค หรือเพื่อการศึกษา
* **ขนาดของสระเลี้ยง** หากเลี้ยงในสระขนาดใหญ่ ก็สามารถเลี้ยงปลาที่มีขนาดใหญ่ได้ หากเลี้ยงในสระขนาดเล็ก ควรเลี้ยงปลาที่มีขนาดเล็ก
* **อุณหภูมิของน้ำ** ปลาแต่ละสายพันธุ์จะทนต่ออุณหภูมิของน้ำที่แตกต่างกัน
* **ปริมาณออกซิเจนในน้ำ** ปลาแต่ละสายพันธุ์ต้องการปริมาณออกซิเจนในน้ำที่แตกต่างกัน
* **ความเค็มของน้ำ** ปลาแต่ละสายพันธุ์ต้องการความเค็มของน้ำที่แตกต่างกัน
* **พฤติกรรมของปลา** ปลาแต่ละสายพันธุ์มีพฤติกรรมที่แตกต่างกัน เช่น ปลาบางชนิดชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง ปลาบางชนิดชอบอยู่ตามลำพัง

**พันธุ์ปลาที่นิยมเลี้ยง**

พันธุ์ปลาที่นิยมเลี้ยงในประเทศไทยมีมากมาย ดังนี้

* **ปลาสวยงาม** เช่น ปลาทอง ปลาหางนกยูง ปลาสอด ปลาหมอสี ปลากัด เป็นต้น
* **ปลาเศรษฐกิจ** เช่น ปลานิล ปลาดุก ปลาตะเพียน ปลาช่อน เป็นต้น
* **ปลาอื่น ๆ** เช่น ปลากะพง ปลาเก๋า ปลาหมอทะเล เป็นต้น

**ตัวอย่างพันธุ์ปลาที่เหมาะเลี้ยง**

* **ปลาทอง** เป็นปลาที่เลี้ยงง่าย ทนต่อสภาพอากาศได้ดี เหมาะสำหรับการเลี้ยงในสระขนาดเล็ก
* **ปลาหางนกยูง** เป็นปลาที่เลี้ยงง่าย ทนต่อสภาพอากาศได้ดี เหมาะสำหรับการเลี้ยงในสระขนาดเล็ก
* **ปลาสอด** เป็นปลาที่เลี้ยงง่าย ทนต่อสภาพอากาศได้ดี เหมาะสำหรับการเลี้ยงในสระขนาดเล็ก
* **ปลาหมอสี** เป็นปลาที่เลี้ยงง่าย ทนต่อสภาพอากาศได้ดี เหมาะสำหรับการเลี้ยงในสระขนาดใหญ่
* **ปลากัด** เป็นปลาที่เลี้ยงง่าย ทนต่อสภาพอากาศได้ดี เหมาะสำหรับการเลี้ยงในภาชนะขนาดเล็ก

**ข้อควรระวังในการเลี้ยงปลา**

* ควรหมั่นทำความสะอาดสระเลี้ยงปลาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการสะสมของสิ่งสกปรกที่อาจทำให้เกิดโรคในปลา
* ควรให้อาหารปลาในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากหรือน้อยเกินไป
* ควรสังเกตพฤติกรรมของปลา หากพบปลาที่มีอาการผิดปกติ ควรรีบแยกเลี้ยงและรักษา

การเลือกพันธุ์ปลาที่เหมาะเลี้ยงนั้น มีความสำคัญต่อความสำเร็จในการเลี้ยงปลา หากเลือกพันธุ์ปลาที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และวัตถุประสงค์ในการเลี้ยง จะช่วยให้ปลาเจริญเติบโตได้ดีและลดความเสี่ยงในการเกิดโรค

โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนาม รั้วลวดหนาม

309
ลวดหนาม มีกี่ประเภท

ลวดหนามมี 2 แบบ
ลวดหนาม ที่เราพอจะนึกออกและเคยเห็น มีอยู่ 2 ประเภทที่เห็นได้ชัดๆ คือ

ลวดหนามล้อมบ้านทั่วไป
ลวดหนามหีบเพลง
1. ลวดหนามล้อมบ้านทั่วไป
ลวดหนามประเภทนี้ก็คือลวดหนามล้อมที่ดิน ล้อมบ้าน ล้อมส้วน ล้อมที่ดินทั่วไปของเรานั่นเอง โดยมากจะแบ่ง ตามลักษณะของปมหนาม หรือ รูปแบบวิธี หรือ คุณภาพการพันนั่นเอง

  1.1 ลักษณะของหนามปมลวดหนาม
ลวดหนามในปัจจุบัน มีรูปแบบการพันปมหนามอยู่ 2 แบบ คือ

1.1.1 การพันเกลียวหนามแบบธรรมดา (Conventional)
เป็นการพันเกลียวลวดหนามแบบเก่า มีโอกาสที่หนามจะหลุด หรือเกลียวหนามอาจคลายได้ในส่วนของตัวเส้นลวดจะมีการพันเกลียวแบบหลวมๆ ไม่แน่น มีโอกาสที่ติดตั้งแล้วจะทำให้ลวดหนามหย่อนในอนาคต ตัวอย่างมีให้เห็นตามทั่วไป (ตามรูปด้านล่าง)
ลวดหนามทั่วไป

ลวดหนามประเภทนี้เราผมเห็นกันได้มากตามพื้นที่ทั่วไป เส้นลวดมักมีขนาดใหญ่ เมื่อเทียบกับลวดหนามประเภทอื่น แต่ค่อนข้างหาซื้อได้ง่าย ซึ่งมีข้อดีคือเป็นลวดหนามที่ราคาถูก มักขายเป็น ชั่งกิโลขาย ข้อเสียหนึ่ง คือเมื่อเป็นการชั่งกิโลขาย 5 กิโลบ้าง 10 กิโลบ้างจะ
 ทำให้ความยาวลวดแต่ละม้วน จะไม่เท่ากันเป็นเหตุผลให้การทำงานยากมากขึ้น เนื่องจากการที่ต้องทำการต่อลวดหลายรอบ

อีกหนึ่งปัญหาที่พบเจอกับการล้อมรั้วลวดหนามคือ ขึ้นสนิมง่าย เพราะลวดหนามทั่วไป จะเป็นการชุบแบบไฟฟ้า (Electroplating) ซึ่งการชุบซิงค์แบบนี้ปริมาณซิงค์ที่ชุบค่อนข้างที่บางมาก ๆ ทำให้อายุการใช้งานของลวดหนามทั่วไปเกิดสนิมเร็ว ประมาณ 6 เดือน – 1 ปี
เริ่มขึ้นสนิมแล้ว หรือจะเป็นปัญหาล้อมรั้วลวดหนามทั่วไปจะขาดง่าย  ขึงไม่ตึง หย่อน  รวมถึงตัวเกลียวหนาม ที่ถักมาไม่แน่นทำให้เป็นสาเหตุของลวดหนามไม่ตึง และหย่อนง่าย ซึ่งถ้าสังเกตการล้อมรั้วลวดหนามทั่วไปที่ติดตั้งตามท้องตลาด ติดตั้งไปได้ 1-2 เดือน รั้วลวดหนามทั่วไปจะเริ่มหย่อนเป็นท้องช้าง ไม่สวยงาม
หรือเห็นรั้วลวดหนามขาดเป็นบางช่วง  ทำให้เปลืองงบประมาณในการซื้อลวดหนามมาติดตั้งใหม่ เสียทั้งเวลา เสียทั้งค่าแรง

ลวดหนาม
รั้วลวดหนาม

310
ลวดหนาม คืออะไร?

ลวดหนาม

ลวดหนามเป็นอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นเส้นลวดที่นำมาดัดเป็นเกลียว และมีปมหนามที่แหลมคม 3-4 แฉก เส้นลวดทำมาจากโลหะที่มีความแข็งแรงทนทาน

ลวดหนามนิยมนำมาใช้ในการล้อมพื้นที่ต่าง ๆ เช่น ล้อมสวน ล้อมที่ดิน ล้อมโรงงาน เพื่อป้องกันไม่ให้คนและสัตว์เข้ามาบุกรุก รวมไปถึงใช้เป็นรั้วบอกเขตแดน

จุดกำเนิดของลวดหนามเริ่มขึ้นในสหรัฐอเมริกา ในปี ค.ศ. 1867 โดยนายโจเซฟ ฟราย ชาวอเมริกัน ซึ่งได้จดสิทธิบัตรลวดหนามชนิดแรกของโลก ลวดหนามในสมัยนั้นมีลักษณะเป็นเส้นลวดบาง ๆ พันด้วยหนามแหลมคม 2-4 แฉก

ลวดหนามได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นรั้วที่มีประสิทธิภาพสูง ราคาถูก และติดตั้งได้ง่าย

ปัจจุบัน ลวดหนามมีหลากหลายรูปแบบ มีทั้งลวดหนามแบบธรรมดา ลวดหนามแบบมีตาข่าย ลวดหนามแบบมีไฟฟ้า เป็นต้น

ประโยชน์ของลวดหนาม

ลวดหนามมีประโยชน์มากมาย ดังนี้

ใช้เป็นรั้วป้องกันความปลอดภัย
ใช้เป็นรั้วกั้นเขตแดน
ใช้เป็นรั้วล้อมสวนหรือที่ดิน
ใช้เป็นรั้วเลี้ยงปศุสัตว์
ใช้เป็นรั้วป้องกันสิ่งอันตรายจากผู้บุกรุก
ข้อควรระวังในการใช้ลวดหนาม

การใช้ลวดหนามควรระมัดระวังอันตรายจากหนามแหลมคม ซึ่งอาจทำให้ได้รับบาดเจ็บได้ ควรติดตั้งลวดหนามให้ห่างจากตัวอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างอย่างน้อย 2 เมตร และไม่ควรปีนป่ายหรือสัมผัสกับลวดหนามโดยเด็ดขาด

สรุป

ลวดหนามเป็นอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพสูง ราคาถูก และติดตั้งได้ง่าย นิยมนำมาใช้ในการล้อมพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อป้องกันการบุกรุกจากคนและสัตว์
ลวดหนาม ตาข่ายถัก

311
วิธีปลูกผักบุ้งง่าย ๆ มีพื้นที่น้อยก็ทำได้ !


  ผักบุ้งเป็นผักสวนครัวที่นำมาประกอบอาหารได้หลายอย่าง อีกทั้งยังปลูกง่ายโตเร็ว แค่ไม่กี่อาทิตย์ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้แล้ว วิธีปลูกนั้นก็ง่ายแสนง่าย สามารถปลูกได้ทั้งแบบเพาะเมล็ดและใช้รากปักชำ แต่วันนี้เรามีวิธีปลูกผักบุ้งแบบใหม่มาฝาก โดยวิธีนี้จะเป็นวิธีปลูกผักบุ้งแบบไม่ใช้เมล็ด สามารถปลูกได้แม้มีพื้นที่น้อย แบ่งออกเป็น 2 วิธีด้วยกันคือวิธีปลูกผักบุ้งแบบใช้ดินและวิธีปลูกผักบุ้งด้วยเม็ดดินเผา ถ้าอยากรู้ว่าวิธีปลูกผักบุ้งแต่ละวิธีมีความแตกต่างกับขั้นตอนการปลูกอย่างไรบ้าง ก็ตามไปชมพร้อม ๆ กันเลยค่ะ   

อุปกรณ์

          - ผักบุ้งสดตัดราก 1 กำมือ

          - ปุ๋ยหมักและปุ๋ยมูลไส้เดือน

          - กากมะพร้าว

          - กระถางสำหรับปลูกแบบมีรู

          - จานรองกระถาง

          - เม็ดดินเผาสำหรับปลูกพืชแบบไฮโดรโปนิกส์

          - ถาดสำหรับการปลูกพืชแบบไฮโดรโปนิกส์ ก้นลึกประมาณ 5 นิ้ว
1. วิธีปลูกแบบใช้ดิน


   1. นำต้นผักบุ้งไปแช่ในถังแล้วเติมน้ำลงไปประมาณ 2 ½-3 นิ้ว ทิ้งไว้ 4–5 วัน เพื่อรอให้รากงอก

          2. นำปุ๋ยหมักและปุ๋ยมูลไส้เดือนผสมกับกากมะพร้าวผสมให้เข้ากัน แล้วตักใส่กระถางจนเกือบเต็ม

          3. ใช้มือขุดดินตรงกลางกระถางออกให้เป็นหลุม แล้วนำต้นผักบุ้งมาวางพร้อมถมดินกลบหลุมปลูกจนเกือบเต็มกระถาง จากนั้นนำจานมารองก้นกระถางไว้เพื่อกักเก็บน้ำเอาไว้

2. วิธีปลูกด้วยเม็ดดินเผา

          1. นำเม็ดดินเผาใส่ถาดปลูกเกลี่ยให้เต็มถาดแล้วเติมน้ำ ระดับน้ำไม่เต็มจนล้นหรือน้อยเกินไป

          2. ปักผักบุ้งลงในถาดปลูกให้ลึกพอประมาณ เกลี่ยเม็ดดินเผากลบราก

          3. หมั่นเปลี่ยนถ่ายน้ำอย่างสม่ำเสมอ

          หลังจากนำลงปลูกทั้ง 2 วิธีแล้ว ให้หมั่นเด็ดใบผักบุ้งส่วนล่างที่เริ่มเหี่ยวทิ้งเพื่อกระตุ้นให้เกิดใบใหม่ เพราะผักบุ้งเป็นผักที่ชอบน้ำ ฉะนั้นถ้าปลูกในกระถางควรหมั่นรดน้ำบ่อย ๆ อย่าปล่อยให้หน้าดินแห้ง และสำหรับผักบุ้งที่ปลูกด้วยวิธีไฮโดรโปนิกส์ให้หมั่นเปลี่ยนน้ำเพื่อให้ออกซิเจนหมุนเวียนไปสู่รากของผักบุ้ง และน้ำที่ใช้ต้องเป็นน้ำสะอาดนั้น ปลูกทิ้งไว้ประมาณ 2 อาทิตย์ แค่นี้ก็เก็บกินได้แล้วค่ะ

3. วิธีปลูกผักบุ้งในตะกร้า

          อุปกรณ์

          - ตะกร้ามีรูแบบโปร่งๆ 1 ใบ

          - กระบะขนาดที่ซ้อนตะกร้าลงไปได้ 1 ใบ

          - กาบมะพร้าวสับ

          - น้ำปุ๋ยไฮโดร

          - กระบะใหญ่

          - เมล็ดผักบุ้ง

          - น้ำสะอาด

          วิธีปลูกแบบใช้เมล็ด

          1. นำตะกร้าแบบมีรูมาวางซ้อนกันกับกระบะ

          2. นำกาบมะพร้าวสับใส่ตะกร้าโดยให้มีความสูงประมาณ 3/4 นิ้ว

          3. ใส่น้ำสะอาด ให้ความสูงของน้ำปริ่มกับกาบมะพร้าว

          4. โรยเมล็ดผักบุ้งอย่าให้ติดกันจนเกินไป และนำฝาหรือภาชนะมาปิดด้านบน วางในที่ร่ม ไม่ต้องตากแดด

          5. รากจะเริ่มโผล่ใน 2 วัน ในระหว่างนี้ควรสังเกตระดับน้ำ ถ้าลดลงให้เติมให้สูงเท่าเก่า ถ้าต้นเริ่มงอกแล้วก็ไม่ต้องปิดฝาแล้ว (ใบจะได้ไม่เหลือง) และเติมปุ๋ยประมาณวันที่ 5

          6. พอครบ 14 วันเติมน้ำปุ๋ยเพิ่ม และเปลี่ยนกระบะใส่น้ำเป็นขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อให้รากยาว

          7. พอครบ 3 สัปดาห์หรือ 21 วัน ต้นจะยาวประมาณ 10-12 นิ้ว แปลว่า ใกล้ตัดได้แล้ว ให้ถ่ายน้ำปุ๋ยออก และใส่น้ำสะอาดไว้ 3-5 วัน เพื่อล้างปุ๋ยตกค้างออกและตัดได้ทันที

โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย ลวดหนาม

312
**เลี้ยงไก่ แบบง่าย**

การเลี้ยงไก่เป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากไก่เป็นสัตว์เลี้ยงที่เลี้ยงง่าย โตไว และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เช่น ไข่ไก่ เนื้อไก่ เป็นต้น

การเลี้ยงไก่แบบง่าย สามารถทำได้ดังนี้

1. **เลือกสายพันธุ์ไก่** ควรเลือกสายพันธุ์ไก่ที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ในการเลี้ยง เช่น หากต้องการเลี้ยงเพื่อเก็บไข่ ควรเลือกสายพันธุ์ไก่ที่วางไข่ดก เช่น โรดไอแลนด์เรด เลห์กอร์ เป็นต้น หากต้องการเลี้ยงเพื่อเก็บเนื้อ ควรเลือกสายพันธุ์ไก่ที่โตเร็วและให้เนื้อเยอะ เช่น ไก่เบตเตอร์คอก เป็นต้น

2. **เตรียมสถานที่เลี้ยง** สถานที่เลี้ยงไก่ควรเป็นสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก อยู่ห่างจากแหล่งมลพิษ และมีพื้นที่เพียงพอสำหรับเลี้ยงไก่

3. **เตรียมอุปกรณ์เลี้ยง** อุปกรณ์เลี้ยงไก่ที่จำเป็น ได้แก่ กรงเลี้ยง อาหารไก่ น้ำดื่มไก่

4. **เลี้ยงไก่** การดูแลไก่เลี้ยงง่าย ๆ สามารถทำได้ดังนี้

* รดน้ำให้ไก่วันละ 1-2 ครั้ง
* ให้อาหารไก่วันละ 2-3 ครั้ง
* เก็บไข่ไก่ทุกวัน
* ทำความสะอาดกรงเลี้ยงไก่สัปดาห์ละ 1 ครั้ง

5. **ป้องกันโรค** ควรหมั่นสังเกตอาการของไก่ หากพบอาการผิดปกติควรรีบนำไก่ไปพบสัตวแพทย์

ตัวอย่างสายพันธุ์ไก่ที่นิยมเลี้ยงในประเทศไทย ได้แก่

* **ไก่ไข่** เช่น โรดไอแลนด์เรด เลห์กอร์ ฮินดูบราห์มัน
* **ไก่เนื้อ** เช่น ไก่เบตเตอร์คอก ไก่โรดไอแลนด์แดง ไก่ฮาน
* **ไก่พื้นเมือง** เช่น ไก่ชน ไก่แจ้ ไก่บ้าน

การเลี้ยงไก่แบบง่าย สามารถทำได้ตามขั้นตอนข้างต้น เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ไก่เลี้ยงไว้รับประทานหรือจำหน่ายสร้างรายได้

โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย รั้วแรงดึง

313
รั้วตะแกรงเหล็กซิงค์อลู

รั้วตะแกรงเหล็กซิงค์อลู
คุณสมบัติและลักษณะ
รั้วตะแกรงเหล็กสำเร็จรูปออกแบบพิเศษ เพิ่มความแข็งแรงทนทาน ติดตั้งง่าย สะดวก รวดเร็ว ผลิตจากลวดชุบซิงค์อลู (ผสมอลูมิเนียม 10%) ตามมาตรฐานยุโรป (BS EN) กผ่านการเชื่อมด้วยเครื่องจักรเทคโนโลยีสูง ทำให้ทุกจุดของรอยเชื่อมหลอมติดแน่นเป็นเนื้อเดียวกัน ตัวเสารั้วและฝาครอบออกแบบให้สี่เหลี่ยม ผลิตจากเหล็กชุบซิงค์เคลือบสีฝุ่นเพื่อเพิ่มอายุการใช้งาน อุปกรณ์ยึดตะแกรงเหล็กกับเสารั้วด้วยตัวยึดพิเศษ Spider ผลิตจากเหล็กชุบซิงค์และเคลือบสีฝุ่น พร้อมน๊อต (Security Bolt) ผลิตจากสแตนเลส ทำให้เสารั้วกับตะแกรงเหล็กยึดกันแน่นหนา แข็งแรง ไม่หลุด และทนสนิม
วิธีการใช้งาน
สามารถใช้งานได้หลากหลาย นิยมนำมาใช้ล้อมรั้วทางด่วน รั้วสนามบิน รั้วโรงงาน รั้วที่ดิน รั้วกั้นอาณาเขต หรือแม้แต่รั้วที่อยู่อาศัย
อายุการใช้งาน
อายุการใช้งานยาวนานเมื่อเทียบกับรั้วตะแกรงเหล็กทั่วไป อายุการใช้งานนาน 10 ปี
ข้อดี
แข็งแรงทนทาน และเหนียวกว่ารั้วตะแกรงเหล็ดทั่วไป
ลักษณะผิวของลวดมีความเรียบสม่ำเสมอ ทนสนิมมากกว่ารั้วตะแกรงเหล็กชุบซิงค์ทั่วไป 14 เท่า
สามารถทนทานสนิมได้ทุกสภาพอากาศ
มีระบบป้องกันความปลอดภัยในการถอด ทำให้มั่นใจได้ว่าเสารั้วและตะแกรงเหล็กจะยึดติดกันอย่างแน่นหนา แข็งแรง ไม่หลุด
ราคาต้นทุน
เริ่มต้นเมตรละ 113 บาท (ขึ้นอยู่กับความสูงของตาข่าย)
โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย ลวดหนาม
ที่มา https://tb.co.th/

314
**สนิม**

สนิม เกิดจากการทำปฏิกิริยากันระหว่าง ออกซิเจนและธาตุเหล็ก เกิดเป็นรอยของการเกิดการผุกร่อน เป็น Corrosion ประเภทหนึ่งซึ่งมักเกิดกับโลหะจำพวกเหล็ก

การเกิดสนิมสามารถอธิบายได้ดังนี้

* **ปัจจัยทางเคมี** เหล็กเป็นโลหะที่มีอิเล็กโทรดศักย์ต่ำ เมื่อสัมผัสกับออกซิเจนในอากาศ เหล็กจะสูญเสียอิเล็กตรอนให้กับออกซิเจน เกิดเป็นสารประกอบออกไซด์ของเหล็กที่เรียกว่า สนิม

* **ปัจจัยทางกายภาพ** ความชื้นในอากาศ น้ำฝน และน้ำใต้ดิน เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาการเกิดสนิม

* **ปัจจัยทางสภาพแวดล้อม** อุณหภูมิที่สูง จะทำให้ปฏิกิริยาการเกิดสนิมเกิดขึ้นเร็วขึ้น

สนิมเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยกับโลหะจำพวกเหล็ก ทำให้เกิดความเสียหายต่อโครงสร้างของโลหะและทำให้อายุการใช้งานของโลหะลดลง

วิธีป้องกันสนิมสามารถทำได้หลายวิธี เช่น

* **การเคลือบผิวโลหะ** ด้วยสารเคลือบผิว เช่น อีพ็อกซี่ โพลียูรีเทน หรือสีทาบ้าน จะช่วยป้องกันไม่ให้ออกซิเจนสัมผัสกับเหล็กได้โดยตรง

* **การชุบโลหะ** ด้วยสารกันสนิม เช่น สังกะสี โครเมียม หรือนิกเกิล จะช่วยป้องกันไม่ให้ออกซิเจนสัมผัสกับเหล็กได้โดยตรง

* **การบำรุงรักษาโลหะ** โดยหมั่นทำความสะอาดโลหะและทาสีซ้ำเมื่อสีเดิมเสื่อมสภาพ

หากพบสนิมบนโลหะ ควรรีบกำจัดสนิมออกโดยเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้สนิมลุกลามไปทำลายเนื้อโลหะ

วิธีกำจัดสนิมสามารถทำได้หลายวิธี เช่น

* **การใช้สารเคมี** เช่น น้ำยากัดสนิม หรือน้ำยาขัดสนิม

* **การใช้ความร้อน** เช่น การเชื่อม การเผา หรือการใช้เครื่องเจียร

* **การใช้วิธีทางกายภาพ** เช่น การขัด การถู หรือการใช้แปรงลวด

การเลือกใช้วิธีกำจัดสนิมที่เหมาะสม ควรพิจารณาจากชนิดของสนิม สภาพของโลหะ และสภาพแวดล้อม
รั้วตาข่าย
ลวดหนามกันสนิม

315
รั้วตะแกรงเหล็กซิงค์อลู

รั้วตะแกรงเหล็กซิงค์อลู
คุณสมบัติและลักษณะ
รั้วตะแกรงเหล็กสำเร็จรูปออกแบบพิเศษ เพิ่มความแข็งแรงทนทาน ติดตั้งง่าย สะดวก รวดเร็ว ผลิตจากลวดชุบซิงค์อลู (ผสมอลูมิเนียม 10%) ตามมาตรฐานยุโรป (BS EN) กผ่านการเชื่อมด้วยเครื่องจักรเทคโนโลยีสูง ทำให้ทุกจุดของรอยเชื่อมหลอมติดแน่นเป็นเนื้อเดียวกัน ตัวเสารั้วและฝาครอบออกแบบให้สี่เหลี่ยม ผลิตจากเหล็กชุบซิงค์เคลือบสีฝุ่นเพื่อเพิ่มอายุการใช้งาน อุปกรณ์ยึดตะแกรงเหล็กกับเสารั้วด้วยตัวยึดพิเศษ Spider ผลิตจากเหล็กชุบซิงค์และเคลือบสีฝุ่น พร้อมน๊อต (Security Bolt) ผลิตจากสแตนเลส ทำให้เสารั้วกับตะแกรงเหล็กยึดกันแน่นหนา แข็งแรง ไม่หลุด และทนสนิม
วิธีการใช้งาน
สามารถใช้งานได้หลากหลาย นิยมนำมาใช้ล้อมรั้วทางด่วน รั้วสนามบิน รั้วโรงงาน รั้วที่ดิน รั้วกั้นอาณาเขต หรือแม้แต่รั้วที่อยู่อาศัย
อายุการใช้งาน
อายุการใช้งานยาวนานเมื่อเทียบกับรั้วตะแกรงเหล็กทั่วไป อายุการใช้งานนาน 10 ปี
ข้อดี
แข็งแรงทนทาน และเหนียวกว่ารั้วตะแกรงเหล็ดทั่วไป
ลักษณะผิวของลวดมีความเรียบสม่ำเสมอ ทนสนิมมากกว่ารั้วตะแกรงเหล็กชุบซิงค์ทั่วไป 14 เท่า
สามารถทนทานสนิมได้ทุกสภาพอากาศ
มีระบบป้องกันความปลอดภัยในการถอด ทำให้มั่นใจได้ว่าเสารั้วและตะแกรงเหล็กจะยึดติดกันอย่างแน่นหนา แข็งแรง ไม่หลุด
ราคาต้นทุน
เริ่มต้นเมตรละ 113 บาท (ขึ้นอยู่กับความสูงของตาข่าย)

โปรโมชั่นสำหรับคุณลูกค้า ลวดหนาม ตาข่ายถัก

316
**ปลูกพืชในน้ำ ง่าย สะดวก ปลอดสารพิษ**

การปลูกพืชในน้ำเป็นเทคนิคการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน โดยนำรากของพืชมาแช่อยู่ในน้ำที่ผสมสารละลายอาหารพืช การปลูกพืชในน้ำมีข้อดีหลายประการ ดังนี้

* **ประหยัดพื้นที่** การปลูกพืชในน้ำไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่มาก สามารถปลูกได้ในพื้นที่จำกัด เช่น บนระเบียง บนโต๊ะ หรือแม้แต่ในห้องน้ำ
* **สะดวกในการดูแลรักษา** ไม่จำเป็นต้องพรวนดินหรือกำจัดวัชพืช เพียงแค่เติมน้ำและสารละลายอาหารพืชให้เพียงพอ
* **ปลอดสารพิษ** การปลูกพืชในน้ำไม่ใช้สารเคมีในการปลูก จึงปลอดภัยต่อผู้บริโภค

**วิธีการปลูกพืชในน้ำ**

การปลูกพืชในน้ำสามารถทำได้หลายวิธี ที่นิยมกัน ได้แก่

* **การปลูกพืชในแก้วน้ำ** เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด เพียงแค่นำต้นกล้าหรือเมล็ดพืชมาแช่ไว้ในแก้วน้ำที่ผสมสารละลายอาหารพืช
* **การปลูกพืชในกระถางไฮโดรโปนิกส์** เป็นวิธีที่สะดวกและสวยงาม กระถางไฮโดรโปนิกส์มีหลายรูปแบบให้เลือก วัสดุที่ใช้ปลูกพืชในกระถางไฮโดรโปนิกส์ ได้แก่ หินภูเขาไฟ หินกรวด หินโรย หรือวัสดุสังเคราะห์
* **การปลูกพืชในระบบไฮโดรโปนิกส์** เป็นระบบการปลูกพืชในน้ำที่มีอุปกรณ์และการควบคุมที่ซับซ้อนกว่าการปลูกพืชในแก้วน้ำหรือกระถางไฮโดรโปนิกส์ ระบบไฮโดรโปนิกส์มีหลายประเภทให้เลือก ที่นิยมกัน ได้แก่ ระบบหยด ระบบน้ำวน ระบบน้ำนิ่ง เป็นต้น

**พืชที่ปลูกในน้ำได้**

พืชที่ปลูกในน้ำได้มีหลายชนิด ที่นิยมปลูก ได้แก่

* **ผักใบ** เช่น ผักกาดหอม ผักบุ้งจีน ผักชี ต้นหอม คะน้า เป็นต้น
* **ผักผลไม้** เช่น แตงกวา มะเขือเทศ มะเขือยาว เป็นต้น
* **ไม้ประดับ** เช่น เศรษฐีเรือนใน ว่านหางจระเข้ เฟิร์น เป็นต้น

**การดูแลรักษาพืชที่ปลูกในน้ำ**

การดูแลรักษาพืชที่ปลูกในน้ำมีดังนี้

* **เปลี่ยนน้ำ** ควรเปลี่ยนน้ำทุก 2-3 วัน หรือเมื่อน้ำเริ่มมีตะกอน
* **เติมสารละลายอาหารพืช** ควรเติมสารละลายอาหารพืชตามคำแนะนำบนฉลาก
* **แสงแดด** พืชที่ปลูกในน้ำต้องการแสงแดดเพียงพอ ควรวางกระถางหรือแก้วน้ำปลูกพืชในที่ที่มีแสงแดดส่องถึง

การปลูกพืชในน้ำเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ง่าย ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นที่จำกัดหรือต้องการปลูกพืชปลอดสารพิษ การปลูกพืชในน้ำเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์มากมาย นอกจากจะทำให้เรามีพืชผักสด ๆ ไว้รับประทานแล้ว ยังทำให้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติและการปลูกพืชอีกด้วย

โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย ลวดหนาม

317
**เลี้ยงปลากัด ปลาสวยงามที่เลี้ยงง่าย เลี้ยงสนุก**

ปลากัดเป็นปลาสวยงามที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ด้วยความที่เป็นปลาที่เลี้ยงง่าย ทนทานต่อสภาพอากาศ และมีความดุดัน ทำให้ปลากัดเป็นที่นิยมทั้งในกลุ่มผู้เลี้ยงปลาสวยงามและกลุ่มผู้เลี้ยงปลากัดเพื่อแข่งขัน

**วิธีการเลี้ยงปลากัด**

การเลี้ยงปลากัดสามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้

* **การเตรียมอุปกรณ์**

อุปกรณ์ที่จำเป็นในการเลี้ยงปลากัด ได้แก่

    * โหลแก้วหรือตู้ปลา
    * หินกรวดหรือวัสดุรองพื้น
    * ปั๊มน้ำ
    * เครื่องกรองน้ำ
    * เครื่องปรับอุณหภูมิ (หากต้องการ)

* **การเตรียมน้ำ**

น้ำที่ใช้เลี้ยงปลากัดควรสะอาด มีอุณหภูมิประมาณ 25-28 องศาเซลเซียส ควรเปลี่ยนน้ำทุกสัปดาห์ หรือเมื่อน้ำเริ่มมีตะกอน

* **การให้อาหาร**

ปลากัดเป็นปลากินเนื้อ ควรให้อาหารปลากัดเป็นอาหารสด เช่น ลูกน้ำ ไรแดง หรืออาหารเม็ดสำเร็จรูปสำหรับปลากัด

* **การดูแลรักษา**

ควรหมั่นตรวจดูปลากัดเป็นประจำ หากพบอาการผิดปกติควรรีบรักษาทันที

**ปัจจัยสำคัญในการเลี้ยงปลากัด**

ปัจจัยสำคัญในการเลี้ยงปลากัด ได้แก่

* **น้ำ** น้ำที่ใช้เลี้ยงปลากัดควรสะอาด มีอุณหภูมิที่เหมาะสม
* **อาหาร** ควรให้อาหารปลากัดอย่างเพียงพอและสม่ำเสมอ
* **สภาพแวดล้อม** ควรวางโหลแก้วหรือตู้ปลาไว้ในที่ที่มีแสงแดดส่องถึง
* **โรคและศัตรูพืช** ควรหมั่นตรวจดูปลากัดเป็นประจำ เพื่อป้องกันการระบาดของโรคและศัตรูพืช

**ข้อดีของการเลี้ยงปลากัด**

การเลี้ยงปลากัดมีข้อดีหลายประการ ดังนี้

* **เป็นกิจกรรมที่ผ่อนคลาย**
* **เป็นกิจกรรมที่เสริมสร้างความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับสัตว์**
* **เป็นกิจกรรมที่สามารถสร้างรายได้เสริม**

**สรุป**

การเลี้ยงปลากัดเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ง่าย ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเลี้ยงสัตว์เลี้ยง ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการเลี้ยงปลากัดเพิ่มเติม เพื่อนำไปเลี้ยงปลากัดให้สวยงามและแข็งแรง
โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย รั้วแรงดึง

318
ปลูกป่า คืนความอุดมสมบูรณ์ให้กับผืนดิน

การปลูกป่าเป็นกิจกรรมที่มีความสำคัญต่อการรักษาสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศของโลก ต้นไม้เป็นสิ่งมีชีวิตที่ช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และผลิตออกซิเจนให้กับโลก อีกทั้งยังช่วยรักษาความชุ่มชื้นของดินและป้องกันการกัดเซาะดิน นอกจากนี้ ต้นไม้ยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิดอีกด้วย

ประเทศไทยมีพื้นที่ป่าลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สาเหตุหลักมาจากการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อการเกษตร อุตสาหกรรม และที่อยู่อาศัย ส่งผลให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมและภัยพิบัติต่างๆ ตามมามากมาย เช่น ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ปัญหาอุทกภัย และปัญหาภัยแล้ง

การปลูกป่าจึงเป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและภัยพิบัติต่างๆ ที่เกิดขึ้น การปลูกป่าสามารถช่วยฟื้นฟูพื้นที่ป่าที่เสียหายให้กลับคืนสู่สภาพเดิมได้ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับโลกอีกด้วย

ประโยชน์ของการปลูกป่า

การปลูกป่ามีประโยชน์มากมายต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศของโลก ดังนี้

ช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และผลิตออกซิเจนให้กับโลก
ช่วยรักษาความชุ่มชื้นของดินและป้องกันการกัดเซาะดิน
ช่วยรักษาสมดุลของวัฏจักรน้ำ
ช่วยเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด
ช่วยป้องกันน้ำท่วมและดินถล่ม
ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับโลก
วิธีการปลูกป่า

การปลูกป่าสามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้

การปลูกป่าด้วยเมล็ด
การปลูกป่าด้วยกล้าไม้
การปลูกป่าด้วยกิ่งตอนหรือทาบกิ่ง
การปลูกป่าด้วยวิธีการขุดหลุมปลูก
การปลูกป่าด้วยวิธีการปลูกแบบถาวร
การเลือกวิธีการปลูกป่าที่เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น สภาพภูมิประเทศ สภาพดิน ชนิดของต้นไม้ และเป้าหมายของการปลูกป่า

การปลูกป่า สามารถทำได้ทุกคน

การปลูกป่าเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ทุกคน ไม่จำกัดเพศ อายุ หรือฐานะ เราสามารถมีส่วนร่วมในการปลูกป่าได้ดังนี้

เข้าร่วมกิจกรรมปลูกป่าที่จัดโดยหน่วยงานต่างๆ
ปลูกป่าด้วยตัวเองที่บ้านหรือในบริเวณใกล้เคียง
บริจาคเงินเพื่อสนับสนุนโครงการปลูกป่า
การปลูกป่าเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศของโลก ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการปลูกป่าได้ เพื่อคืนความอุดมสมบูรณ์ให้กับผืนดินและสร้างโลกที่ยั่งยืนให้กับคนรุ่นต่อไป

โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย รั้วแรงดึง

319
**เลี้ยงไก่ แบบง่าย**

การเลี้ยงไก่เป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากไก่เป็นสัตว์เลี้ยงที่เลี้ยงง่าย โตไว และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เช่น ไข่ไก่ เนื้อไก่ เป็นต้น

การเลี้ยงไก่แบบง่าย สามารถทำได้ดังนี้

1. **เลือกสายพันธุ์ไก่** ควรเลือกสายพันธุ์ไก่ที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ในการเลี้ยง เช่น หากต้องการเลี้ยงเพื่อเก็บไข่ ควรเลือกสายพันธุ์ไก่ที่วางไข่ดก เช่น โรดไอแลนด์เรด เลห์กอร์ เป็นต้น หากต้องการเลี้ยงเพื่อเก็บเนื้อ ควรเลือกสายพันธุ์ไก่ที่โตเร็วและให้เนื้อเยอะ เช่น ไก่เบตเตอร์คอก เป็นต้น

2. **เตรียมสถานที่เลี้ยง** สถานที่เลี้ยงไก่ควรเป็นสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก อยู่ห่างจากแหล่งมลพิษ และมีพื้นที่เพียงพอสำหรับเลี้ยงไก่

3. **เตรียมอุปกรณ์เลี้ยง** อุปกรณ์เลี้ยงไก่ที่จำเป็น ได้แก่ กรงเลี้ยง อาหารไก่ น้ำดื่มไก่

4. **เลี้ยงไก่** การดูแลไก่เลี้ยงง่าย ๆ สามารถทำได้ดังนี้

* รดน้ำให้ไก่วันละ 1-2 ครั้ง
* ให้อาหารไก่วันละ 2-3 ครั้ง
* เก็บไข่ไก่ทุกวัน
* ทำความสะอาดกรงเลี้ยงไก่สัปดาห์ละ 1 ครั้ง

5. **ป้องกันโรค** ควรหมั่นสังเกตอาการของไก่ หากพบอาการผิดปกติควรรีบนำไก่ไปพบสัตวแพทย์

ตัวอย่างสายพันธุ์ไก่ที่นิยมเลี้ยงในประเทศไทย ได้แก่

* **ไก่ไข่** เช่น โรดไอแลนด์เรด เลห์กอร์ ฮินดูบราห์มัน
* **ไก่เนื้อ** เช่น ไก่เบตเตอร์คอก ไก่โรดไอแลนด์แดง ไก่ฮาน
* **ไก่พื้นเมือง** เช่น ไก่ชน ไก่แจ้ ไก่บ้าน

การเลี้ยงไก่แบบง่าย สามารถทำได้ตามขั้นตอนข้างต้น เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ไก่เลี้ยงไว้รับประทานหรือจำหน่ายสร้างรายได้

โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย รั้วแรงดึง

320
**ปลูกพืชในน้ำ ง่าย สะดวก ปลอดสารพิษ**

การปลูกพืชในน้ำเป็นเทคนิคการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน โดยนำรากของพืชมาแช่อยู่ในน้ำที่ผสมสารละลายอาหารพืช การปลูกพืชในน้ำมีข้อดีหลายประการ ดังนี้

* **ประหยัดพื้นที่** การปลูกพืชในน้ำไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่มาก สามารถปลูกได้ในพื้นที่จำกัด เช่น บนระเบียง บนโต๊ะ หรือแม้แต่ในห้องน้ำ
* **สะดวกในการดูแลรักษา** ไม่จำเป็นต้องพรวนดินหรือกำจัดวัชพืช เพียงแค่เติมน้ำและสารละลายอาหารพืชให้เพียงพอ
* **ปลอดสารพิษ** การปลูกพืชในน้ำไม่ใช้สารเคมีในการปลูก จึงปลอดภัยต่อผู้บริโภค

**วิธีการปลูกพืชในน้ำ**

การปลูกพืชในน้ำสามารถทำได้หลายวิธี ที่นิยมกัน ได้แก่

* **การปลูกพืชในแก้วน้ำ** เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด เพียงแค่นำต้นกล้าหรือเมล็ดพืชมาแช่ไว้ในแก้วน้ำที่ผสมสารละลายอาหารพืช
* **การปลูกพืชในกระถางไฮโดรโปนิกส์** เป็นวิธีที่สะดวกและสวยงาม กระถางไฮโดรโปนิกส์มีหลายรูปแบบให้เลือก วัสดุที่ใช้ปลูกพืชในกระถางไฮโดรโปนิกส์ ได้แก่ หินภูเขาไฟ หินกรวด หินโรย หรือวัสดุสังเคราะห์
* **การปลูกพืชในระบบไฮโดรโปนิกส์** เป็นระบบการปลูกพืชในน้ำที่มีอุปกรณ์และการควบคุมที่ซับซ้อนกว่าการปลูกพืชในแก้วน้ำหรือกระถางไฮโดรโปนิกส์ ระบบไฮโดรโปนิกส์มีหลายประเภทให้เลือก ที่นิยมกัน ได้แก่ ระบบหยด ระบบน้ำวน ระบบน้ำนิ่ง เป็นต้น

**พืชที่ปลูกในน้ำได้**

พืชที่ปลูกในน้ำได้มีหลายชนิด ที่นิยมปลูก ได้แก่

* **ผักใบ** เช่น ผักกาดหอม ผักบุ้งจีน ผักชี ต้นหอม คะน้า เป็นต้น
* **ผักผลไม้** เช่น แตงกวา มะเขือเทศ มะเขือยาว เป็นต้น
* **ไม้ประดับ** เช่น เศรษฐีเรือนใน ว่านหางจระเข้ เฟิร์น เป็นต้น

**การดูแลรักษาพืชที่ปลูกในน้ำ**

การดูแลรักษาพืชที่ปลูกในน้ำมีดังนี้

* **เปลี่ยนน้ำ** ควรเปลี่ยนน้ำทุก 2-3 วัน หรือเมื่อน้ำเริ่มมีตะกอน
* **เติมสารละลายอาหารพืช** ควรเติมสารละลายอาหารพืชตามคำแนะนำบนฉลาก
* **แสงแดด** พืชที่ปลูกในน้ำต้องการแสงแดดเพียงพอ ควรวางกระถางหรือแก้วน้ำปลูกพืชในที่ที่มีแสงแดดส่องถึง

การปลูกพืชในน้ำเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ง่าย ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นที่จำกัดหรือต้องการปลูกพืชปลอดสารพิษ การปลูกพืชในน้ำเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์มากมาย นอกจากจะทำให้เรามีพืชผักสด ๆ ไว้รับประทานแล้ว ยังทำให้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติและการปลูกพืชอีกด้วย

โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย ลวดหนาม

321
**เลี้ยงแมว สัตว์เลี้ยงแสนรัก เป็นเพื่อนคู่ใจ**

แมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นสัตว์ที่น่ารัก ขี้อ้อน และสามารถเข้ากับคนได้ดี การเลี้ยงแมวเป็นกิจกรรมที่สร้างความเพลิดเพลินและความสุขให้กับเจ้าของเป็นอย่างมาก

**การเตรียมการเลี้ยงแมว**

ก่อนเลี้ยงแมวควรเตรียมการดังนี้

* **ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับแมว** ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสายพันธุ์แมว นิสัยและความต้องการพื้นฐานของแมว เพื่อให้สามารถเลี้ยงแมวได้อย่างเหมาะสม
* **เตรียมความพร้อมด้านสถานที่** ควรเตรียมพื้นที่สำหรับเลี้ยงแมวให้เพียงพอกับขนาดของแมว
* **เตรียมอุปกรณ์สำหรับเลี้ยงแมว** ควรเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับเลี้ยงแมว เช่น อาหาร น้ำดื่ม กระบะทราย เปลนอน ของเล่น เป็นต้น

**การดูแลรักษาแมว**

การดูแลรักษาแมวสามารถทำได้ดังนี้

* **ให้อาหารแมว** ควรให้อาหารแมวอย่างสม่ำเสมอ อาหารแมวควรมีครบถ้วนทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน และเกลือแร่
* **ให้น้ำดื่มแมว** ควรให้น้ำดื่มแมวอย่างสะอาดและเพียงพอ
* **ทำความสะอาดกระบะทรายแมว** ควรทำความสะอาดกระบะทรายแมวทุกวัน
* **พาแมวไปตรวจสุขภาพ** ควรพาแมวไปตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย

**ข้อดีของการเลี้ยงแมว**

* เป็นสัตว์ที่น่ารัก ขี้อ้อน และสามารถเข้ากับคนได้ดี
* สามารถช่วยบำบัดความเครียดและโรคซึมเศร้าได้
* สามารถช่วยกำจัดหนูและแมลงในบ้านได้

**ข้อเสียของการเลี้ยงแมว**

* อาจก่อให้เกิดปัญหาด้านมลภาวะได้ เช่น กลิ่นมูลแมว เป็นต้น
* อาจก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาได้ เช่น ค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่ายา เป็นต้น

**ช่องทางการหาแมวมาเลี้ยง**

สามารถหาแมวมาเลี้ยงได้จากแหล่งต่างๆ ดังนี้

* ซื้อจากฟาร์มแมว
* รับเลี้ยงจากสถานสงเคราะห์สัตว์
* หามาเลี้ยงจากเพื่อนหรือญาติ

การเลี้ยงแมวเป็นกิจกรรมที่สร้างความเพลิดเพลินและความสุขให้กับเจ้าของเป็นอย่างมาก เพียงศึกษาข้อมูลและเตรียมการอย่างรอบคอบก็สามารถเลี้ยงแมวให้มีความสุขได้

**เคล็ดลับการเลี้ยงแมว**

* ควรให้ความรักและความเอาใจใส่แก่แมวอย่างสม่ำเสมอ
* ควรฝึกสอนแมวให้เชื่อฟังคำสั่ง เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
* ควรพาแมวไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคเป็นประจำ
* ควรหมั่นทำความสะอาดบ้านอยู่เสมอ เพื่อกำจัดกลิ่นมูลแมวและป้องกันโรคติดต่อ

การเลี้ยงแมวเป็นกิจกรรมที่ต้องใช้ความอดทนและความเข้าใจ หากสามารถเลี้ยงแมวได้อย่างเหมาะสมแล้ว แมวจะเป็นสัตว์เลี้ยงที่แสนรักและเป็นเพื่อนคู่ใจที่ดีให้กับเจ้าของ

โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย รั้วแรงดึง

322
**เลี้ยงปลากัด ปลาสวยงามที่เลี้ยงง่าย เลี้ยงสนุก**

ปลากัดเป็นปลาสวยงามที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ด้วยความที่เป็นปลาที่เลี้ยงง่าย ทนทานต่อสภาพอากาศ และมีความดุดัน ทำให้ปลากัดเป็นที่นิยมทั้งในกลุ่มผู้เลี้ยงปลาสวยงามและกลุ่มผู้เลี้ยงปลากัดเพื่อแข่งขัน

**วิธีการเลี้ยงปลากัด**

การเลี้ยงปลากัดสามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้

* **การเตรียมอุปกรณ์**

อุปกรณ์ที่จำเป็นในการเลี้ยงปลากัด ได้แก่

    * โหลแก้วหรือตู้ปลา
    * หินกรวดหรือวัสดุรองพื้น
    * ปั๊มน้ำ
    * เครื่องกรองน้ำ
    * เครื่องปรับอุณหภูมิ (หากต้องการ)

* **การเตรียมน้ำ**

น้ำที่ใช้เลี้ยงปลากัดควรสะอาด มีอุณหภูมิประมาณ 25-28 องศาเซลเซียส ควรเปลี่ยนน้ำทุกสัปดาห์ หรือเมื่อน้ำเริ่มมีตะกอน

* **การให้อาหาร**

ปลากัดเป็นปลากินเนื้อ ควรให้อาหารปลากัดเป็นอาหารสด เช่น ลูกน้ำ ไรแดง หรืออาหารเม็ดสำเร็จรูปสำหรับปลากัด

* **การดูแลรักษา**

ควรหมั่นตรวจดูปลากัดเป็นประจำ หากพบอาการผิดปกติควรรีบรักษาทันที

**ปัจจัยสำคัญในการเลี้ยงปลากัด**

ปัจจัยสำคัญในการเลี้ยงปลากัด ได้แก่

* **น้ำ** น้ำที่ใช้เลี้ยงปลากัดควรสะอาด มีอุณหภูมิที่เหมาะสม
* **อาหาร** ควรให้อาหารปลากัดอย่างเพียงพอและสม่ำเสมอ
* **สภาพแวดล้อม** ควรวางโหลแก้วหรือตู้ปลาไว้ในที่ที่มีแสงแดดส่องถึง
* **โรคและศัตรูพืช** ควรหมั่นตรวจดูปลากัดเป็นประจำ เพื่อป้องกันการระบาดของโรคและศัตรูพืช

**ข้อดีของการเลี้ยงปลากัด**

การเลี้ยงปลากัดมีข้อดีหลายประการ ดังนี้

* **เป็นกิจกรรมที่ผ่อนคลาย**
* **เป็นกิจกรรมที่เสริมสร้างความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับสัตว์**
* **เป็นกิจกรรมที่สามารถสร้างรายได้เสริม**

**สรุป**

การเลี้ยงปลากัดเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ง่าย ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเลี้ยงสัตว์เลี้ยง ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการเลี้ยงปลากัดเพิ่มเติม เพื่อนำไปเลี้ยงปลากัดให้สวยงามและแข็งแรง
โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย รั้วแรงดึง

323
**เลี้ยงแกะ อาชีพเสริม รายได้ดี**

การเลี้ยงแกะเป็นอาชีพเสริมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นอาชีพที่ลงทุนไม่มาก ดูแลไม่ยุ่งยาก และสามารถให้ผลผลิตได้หลายอย่าง เช่น เนื้อ แกะพันธุ์ขน และมูลแกะ เลี้ยงแกะเป็นอาชีพเสริมสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้เป็นอย่างดี

**การเตรียมการเลี้ยงแกะ**

ก่อนเลี้ยงแกะควรเตรียมการดังนี้

* **เลือกพื้นที่เลี้ยง** พื้นที่เลี้ยงควรมีแสงแดดส่องถึง มีอากาศถ่ายเทสะดวก และอยู่ห่างจากแหล่งชุมชน
* **สร้างคอกแกะ** คอกแกะควรมีขนาดใหญ่พอสำหรับจำนวนแกะที่จะเลี้ยง คอกควรมีหลังคาเพื่อป้องกันแดดและฝน มีประตูและหน้าต่างระบายอากาศ
* **เตรียมอุปกรณ์เลี้ยงแกะ** อุปกรณ์เลี้ยงแกะ ได้แก่ อาหารแกะ น้ำดื่มแกะ หญ้าแห้ง กรงเลี้ยงแกะ

**การดูแลรักษาแกะ**

การดูแลรักษาแกะสามารถทำได้ดังนี้

* **ให้อาหารแกะ** ควรให้อาหารแกะอย่างสม่ำเสมอ อาหารแกะควรมีครบถ้วนทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน และเกลือแร่
* **ให้น้ำดื่มแกะ** ควรให้น้ำดื่มแกะอย่างสะอาดและเพียงพอ
* **ทำความสะอาดคอกแกะ** ควรทำความสะอาดคอกแกะอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขอนามัยที่ดีของแกะ
* **ป้องกันโรคแกะ** ควรหมั่นตรวจสุขภาพแกะอย่างสม่ำเสมอ และป้องกันโรคแกะตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่

**เคล็ดลับการเลี้ยงแกะ**

* เลือกสายพันธุ์แกะที่เหมาะกับความต้องการของตนเอง
* เตรียมการเลี้ยงแกะให้พร้อมก่อนเลี้ยง
* ดูแลรักษาแกะอย่างสม่ำเสมอ

การเลี้ยงแกะเป็นอาชีพเสริมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นอาชีพที่ลงทุนไม่มาก ดูแลไม่ยุ่งยาก และสามารถให้ผลผลิตได้หลายอย่าง เพียงปฏิบัติตามขั้นตอนข้างต้นก็สามารถเลี้ยงแกะให้ประสบความสำเร็จ

**ข้อดีของการเลี้ยงแกะ**

* ลงทุนเริ่มต้นไม่สูง
* ดูแลไม่ยุ่งยาก
* สามารถให้ผลผลิตได้หลายอย่าง
* ทนทานต่อสภาพอากาศและโรคภัยไข้เจ็บ
* ตลาดมีความต้องการสูง

**ข้อเสียของการเลี้ยงแกะ**

* ต้องใช้แรงงานค่อนข้างมาก
* เสี่ยงต่อโรคระบาด

**ช่องทางการจำหน่ายผลผลิตแกะ**

* ขายส่งให้กับพ่อค้าคนกลาง
* ขายปลีกให้กับผู้บริโภคโดยตรง
* แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น เนื้อแกะสด เนื้อแกะแช่แข็ง แกะพันธุ์ขน ฯลฯ

การเลี้ยงแกะเป็นอาชีพเสริมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพียงศึกษาข้อมูลและเตรียมการอย่างรอบคอบก็สามารถเลี้ยงแกะให้ประสบความสำเร็จ

โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนาม ตาข่ายถัก

324
**เลี้ยงสุนัข เพื่อนคู่ใจ มิตรแท้**

สุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นสัตว์ที่แสนรู้ เชื่อง และสามารถเป็นเพื่อนคู่ใจได้เป็นอย่างดี การเลี้ยงสุนัขเป็นกิจกรรมที่สร้างความเพลิดเพลินและความสุขให้กับเจ้าของเป็นอย่างมาก

**การเตรียมการเลี้ยงสุนัข**

ก่อนเลี้ยงสุนัขควรเตรียมการดังนี้

* **ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสุนัข** ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสายพันธุ์สุนัข นิสัยและความต้องการพื้นฐานของสุนัข เพื่อให้สามารถเลี้ยงสุนัขได้อย่างเหมาะสม
* **เตรียมความพร้อมด้านสถานที่** ควรเตรียมพื้นที่สำหรับเลี้ยงสุนัขให้เพียงพอกับขนาดของสุนัข
* **เตรียมอุปกรณ์สำหรับเลี้ยงสุนัข** ควรเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับเลี้ยงสุนัข เช่น อาหาร น้ำดื่ม ชามอาหาร ชามน้ำ เปลนอน ของเล่น เป็นต้น

**การดูแลรักษาสุนัข**

การดูแลรักษาสุนัขสามารถทำได้ดังนี้

* **ให้อาหารสุนัข** ควรให้อาหารสุนัขอย่างสม่ำเสมอ อาหารสุนัขควรมีครบถ้วนทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน และเกลือแร่
* **ให้น้ำดื่มสุนัข** ควรให้น้ำดื่มสุนัขอย่างสะอาดและเพียงพอ
* **พาสุนัขไปเดินเล่น** ควรพาสุนัขไปเดินเล่นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สุนัขได้ออกกำลังกายและผ่อนคลาย
* **ฝึกสอนสุนัข** ควรฝึกสอนสุนัขให้เชื่อฟังคำสั่ง เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
* **พาสุนัขไปตรวจสุขภาพ** ควรพาสุนัขไปตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย

**ข้อดีของการเลี้ยงสุนัข**

* เป็นสัตว์เลี้ยงที่แสนรู้ เชื่อง และสามารถเป็นเพื่อนคู่ใจได้เป็นอย่างดี
* สามารถช่วยปกป้องเจ้าของจากอันตรายได้
* สามารถช่วยบำบัดความเครียดและโรคซึมเศร้าได้
* สามารถนำสุนัขไปฝึกฝนเพื่อใช้ในการช่วยเหลือต่างๆ เช่น ตำรวจ ทหาร กู้ภัย เป็นต้น

**ข้อเสียของการเลี้ยงสุนัข**

* ต้องการการดูแลเอาใจใส่อย่างสม่ำเสมอ
* อาจก่อให้เกิดปัญหาด้านมลภาวะได้ เช่น เสียงเห่า กลิ่นมูลสุนัข เป็นต้น
* อาจก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาได้ เช่น ค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่ายา เป็นต้น

**ช่องทางการหาสุนัขมาเลี้ยง**

สามารถหาสุนัขมาเลี้ยงได้จากแหล่งต่างๆ ดังนี้

* ซื้อจากฟาร์มสุนัข
* รับเลี้ยงจากสถานสงเคราะห์สัตว์
* หามาเลี้ยงจากเพื่อนหรือญาติ

การเลี้ยงสุนัขเป็นกิจกรรมที่สร้างความเพลิดเพลินและความสุขให้กับเจ้าของเป็นอย่างมาก เพียงศึกษาข้อมูลและเตรียมการอย่างรอบคอบก็สามารถเลี้ยงสุนัขให้มีความสุขได้

โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย ลวดหนาม

325
ปลูกป่า คืนความอุดมสมบูรณ์ให้กับผืนดิน

การปลูกป่าเป็นกิจกรรมที่มีความสำคัญต่อการรักษาสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศของโลก ต้นไม้เป็นสิ่งมีชีวิตที่ช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และผลิตออกซิเจนให้กับโลก อีกทั้งยังช่วยรักษาความชุ่มชื้นของดินและป้องกันการกัดเซาะดิน นอกจากนี้ ต้นไม้ยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิดอีกด้วย

ประเทศไทยมีพื้นที่ป่าลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สาเหตุหลักมาจากการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อการเกษตร อุตสาหกรรม และที่อยู่อาศัย ส่งผลให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมและภัยพิบัติต่างๆ ตามมามากมาย เช่น ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ปัญหาอุทกภัย และปัญหาภัยแล้ง

การปลูกป่าจึงเป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและภัยพิบัติต่างๆ ที่เกิดขึ้น การปลูกป่าสามารถช่วยฟื้นฟูพื้นที่ป่าที่เสียหายให้กลับคืนสู่สภาพเดิมได้ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับโลกอีกด้วย

ประโยชน์ของการปลูกป่า

การปลูกป่ามีประโยชน์มากมายต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศของโลก ดังนี้

ช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และผลิตออกซิเจนให้กับโลก
ช่วยรักษาความชุ่มชื้นของดินและป้องกันการกัดเซาะดิน
ช่วยรักษาสมดุลของวัฏจักรน้ำ
ช่วยเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด
ช่วยป้องกันน้ำท่วมและดินถล่ม
ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับโลก
วิธีการปลูกป่า

การปลูกป่าสามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้

การปลูกป่าด้วยเมล็ด
การปลูกป่าด้วยกล้าไม้
การปลูกป่าด้วยกิ่งตอนหรือทาบกิ่ง
การปลูกป่าด้วยวิธีการขุดหลุมปลูก
การปลูกป่าด้วยวิธีการปลูกแบบถาวร
การเลือกวิธีการปลูกป่าที่เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น สภาพภูมิประเทศ สภาพดิน ชนิดของต้นไม้ และเป้าหมายของการปลูกป่า

การปลูกป่า สามารถทำได้ทุกคน

การปลูกป่าเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ทุกคน ไม่จำกัดเพศ อายุ หรือฐานะ เราสามารถมีส่วนร่วมในการปลูกป่าได้ดังนี้

เข้าร่วมกิจกรรมปลูกป่าที่จัดโดยหน่วยงานต่างๆ
ปลูกป่าด้วยตัวเองที่บ้านหรือในบริเวณใกล้เคียง
บริจาคเงินเพื่อสนับสนุนโครงการปลูกป่า
การปลูกป่าเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศของโลก ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการปลูกป่าได้ เพื่อคืนความอุดมสมบูรณ์ให้กับผืนดินและสร้างโลกที่ยั่งยืนให้กับคนรุ่นต่อไป

โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย รั้วแรงดึง

326


ลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้กับที่ดินบางประเภท
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบให้มีการปรับลดอัตราการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 2566 สำหรับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างบางประเภท โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ได้รับการลดภาษีตามพระราชกฤษฎีกาลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2563 ให้ลดภาษีในอัตรา 15% ของจำนวนภาษีที่คำนวณได้ ตัวอย่างกรณีที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่เคยได้รับการลดภาษี ได้แก่ โรงพยาบาล ร้านทำผม ร้านอาหาร ร้านล้างรถ และห้างสรรพสินค้า
2. ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับการลดภาษี 50% ตามพระราชกฤษฎีกาลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2563 เมื่อคำนวณลดภาษีในอัตรา 50% ของจำนวนภาษีที่จะต้องเสียแล้ว ให้ลดภาษีลงอีกในอัตรา 15% ของจำนวนภาษีที่ลดไปแล้ว 50% ตัวอย่างกรณีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่ได้รับการลดภาษี 50% ได้แก่
– ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่เจ้าของเป็นบุคคลธรรมดาใช้เป็นที่อยู่อาศัยและมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน เฉพาะทรัพย์สินที่บุคคลดังกล่าวได้มาทางมรดกและได้จดทะเบียนแล้วก่อนวันที่ 13 มีนาคม 2562
– ที่ดินที่ตั้งของโรงผลิตไฟฟ้า
– ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็นเขื่อน
3. กรณีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่ได้รับการลดภาษี 90% ตามพ.ร.ฎ.ลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2563 แล้ว จะไม่ได้รับการลดภาษีเพิ่มอีก เนื่องจากมาตรา 55 แห่ง พร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 จะมีอัตราการลดภาษีสูงสุดอยู่ที่ 90% ได้แก่
– โรงเรียนในระบบ
– โรงเรียนนอกระบบ (ประเภทสอนศาสนา ตาดีกา ปอเนาะ)
– สวนสัตว์ที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย
– สวนสนุกที่มีเครื่องเล่นที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย

โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนาม ตาข่ายถัก

ที่มา ddproperty

327


ใช้ที่ดินเพื่อประกอบการเกษตร ปลูกแค่ 1 ไร่ก็ทำได้ จ่ายภาษีเพียง 0.01%
ประกาศกระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยเรื่องหลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม ได้กำหนดอัตราขั้นต่ำของจำนวนไม้ต้น ไม้ผล ต่อพื้นที่ปลูก 1 ไร่ จึงจะสามารถเรียกว่าใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรมได้และจ่ายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพียง 0.01% เท่านั้น แต่หากปล่อยให้รกร้างหรือใช้ประโยชน์ด้านอื่นจะต้องจ่ายภาษีในอัตรา 0.30% ซึ่งมากกว่าภาษีที่ดินเพื่อการเกษตรถึง 30 เท่า
หลายคนจึงหันมาเปลี่ยนที่ดินเปล่า เพื่อใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม ซึ่งที่ง่ายที่สุดและเห็นกันเกลื่อนตาคือการปลูกกล้วย ปลูกมะพร้าว แต่รู้หรือไม่ยังมีไม้ผลอีกหลายชนิดที่สามารถปลูกในที่ดินเพื่อประกอบการเกษตรได้

•อัปเดตอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
การใช้ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างตามความหมายของคำว่า “ประกอบการเกษตร” ในระเบียบคณะกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ว่าด้วยการขึ้นทะเบียนเกษตรกร พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการบริโภค จำหน่าย หรือใช้งานในฟาร์ม แต่ไม่รวมถึงการทำการประมงและการทอผ้า การใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรยังหมายความรวมถึงที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ต่อเนื่องที่ใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรมนั้นด้วย

การกำหนดอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตั้งแต่ปีภาษี 2565-2566 โดยคงอัตราภาษีแบบเดิมเช่นเดียวกับปีภาษี 2563 และ 2564 มีสาระสำคัญ ดังนี้

ที่ดินเพื่อการประกอบเกษตรกรรม อัตราภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบันอยู่ที่ 0.01-0.1%
ที่อยู่อาศัย แบ่งเป็น
2.1 บ้านหลังหลัก เป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน มูลค่าทรัพย์สินไม่เกิน 50 ล้านบาท ได้รับการยกเว้นภาษี มูลค่า 50 ล้านบาทขึ้นไป อัตราภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบันอยู่ที่ 0.03-0.1%
2.2 บ้านหลังหลัก เป็นเจ้าของเฉพาะสิ่งปลูกสร้าง และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน มูลค่าทรัพย์สินไม่เกิน 10 ล้านบาท ได้รับการยกเว้นภาษี มูลค่า 10 ล้านบาทขึ้นไป อัตราภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบันอยู่ที่ 0.02-0.1%
2.3 บ้านหลังอื่น ๆ อัตราภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบันอยู่ที่ 0.02-0.1%
การใช้ประโยชน์อื่น หรือใช้เชิงพาณิชย์ เช่น อาคารสำนักงาน โรงแรม ร้านอาหาร พาณิชยกรรม อุตสาหกรรม อัตราภาษีที่จัดเก็บในปัจจุบันอยู่ที่ 0.3-0.7%
ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งไว้ว่างเปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพ อัตราภาษีที่ดินว่างเปล่าที่จัดเก็บในปัจจุบันอยู่ที่ 0.3-0.7%
รั้วตาข่าย
ลวดหนามกันสนิม

328

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง คืออะไร

คือ ภาษีรายปีที่เก็บและคิดจากมูลค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้างที่เราครอบครอง โดยมีองค์กรท้องถิ่น เช่น เทศบาล อบต. เป็นผู้จัดเก็บ

โดยผู้ที่ต้องเสียภาษีที่ดินต้องมีเงื่อนไขดังนี้

1. เจ้าของกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ (ดูตามโฉนด ไม่ใช่ทะเบียนบ้าน)

2. ผู้ครอบครอง/ทำประโยชน์ในที่ดินนั้น จะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลก็ได้

ซึ่งกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 2562 เป็นกฎหมายที่มาแทนที่ ภาษีโรงเรือนและที่ดิน กับ ภาษีบำรุงท้องที่ ซึ่งซ้ำซ้อนกัน

ประเภทของภาษีที่ดิน 2566 แบ่งประเภทที่ดินที่ต้องเสียภาษีไว้ 4 รายการ

1. ที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม

2. ที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย

3. ที่ดินเพื่อพาณิชยกรรม

4. ที่ดินรกร้างว่างเปล่า

โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย รั้วแรงดึง

ที่มา www.kwilife.com

329
**ทำสวนเลี้ยงสัตว์**

การทำสวนเลี้ยงสัตว์เป็นแนวทางเกษตรกรรมแบบผสมผสานที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นแนวทางที่สามารถนำเอาประโยชน์จากพืชและสัตว์มาใช้ประโยชน์ร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยพืชจะช่วยเพิ่มคุณค่าทางอาหารให้กับดินและเป็นแหล่งอาหารให้กับสัตว์ ส่วนสัตว์จะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรและช่วยดูแลสวนอีกด้วย

**ประโยชน์ของการทำสวนเลี้ยงสัตว์**

การทำสวนเลี้ยงสัตว์มีประโยชน์มากมาย ดังนี้

* **เพิ่มผลผลิตทางการเกษตร** สัตว์จะช่วยเพิ่มคุณค่าทางอาหารให้กับดิน ทำให้ดินร่วนซุยและสามารถอุ้มน้ำได้ดี ซึ่งจะช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดีและเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร
* **ลดต้นทุนการผลิต** สัตว์จะช่วยกำจัดวัชพืชและศัตรูพืช ทำให้เกษตรกรไม่ต้องใช้สารเคมีหรือแรงงานในการกำจัดวัชพืชและศัตรูพืช ซึ่งช่วยลดต้นทุนการผลิต
* **เพิ่มรายได้เสริม** เกษตรกรสามารถจำหน่ายผลผลิตจากสัตว์ เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ นม มูลสัตว์ เป็นต้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้เสริมให้กับเกษตรกร
* **สร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืน** การทำสวนเลี้ยงสัตว์จะช่วยสร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืน โดยสัตว์จะช่วยเพิ่มวงจรชีวิตของพืชและช่วยรักษาสมดุลของธรรมชาติ

**ขั้นตอนในการทำสวนเลี้ยงสัตว์**

การทำสวนเลี้ยงสัตว์สามารถทำได้โดยเริ่มจากการศึกษาข้อมูลและวางแผนการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และวัตถุประสงค์ในการเลี้ยง โดยควรคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้

* **สภาพพื้นที่** ควรเลือกพื้นที่ที่มีดินร่วนซุย มีแหล่งน้ำเพียงพอ และมีแสงแดดส่องถึงเพียงพอ
* **วัตถุประสงค์ในการเลี้ยง** ควรกำหนดวัตถุประสงค์ในการเลี้ยงว่าต้องการเลี้ยงเพื่อความสวยงาม เพื่อการบริโภค หรือเพื่อการศึกษา
* **พันธุ์พืชและสัตว์** ควรเลือกพันธุ์พืชและสัตว์ที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และวัตถุประสงค์ในการเลี้ยง

**ตัวอย่างการทำสวนเลี้ยงสัตว์**

ตัวอย่างการทำสวนเลี้ยงสัตว์ เช่น การทำสวนผักและเลี้ยงไก่ไข่ การทำสวนผลไม้และเลี้ยงเป็ด การทำสวนไม้ดอกไม้ประดับและเลี้ยงปลา เป็นต้น

**ข้อควรระวังในการทำสวนเลี้ยงสัตว์**

การทำสวนเลี้ยงสัตว์ควรคำนึงถึงข้อควรระวังต่าง ๆ ดังนี้

* **ควรเลือกพันธุ์พืชและสัตว์ที่ทนต่อสภาพอากาศและโรคภัยไข้เจ็บ**
* **ควรดูแลสัตว์ให้อยู่ในความสะอาดและปลอดภัย**
* **ควรหมั่นดูแลรักษาสวนและสัตว์อย่างสม่ำเสมอ**

การทำสวนเลี้ยงสัตว์เป็นแนวทางเกษตรกรรมแบบผสมผสานที่สามารถสร้างประโยชน์ให้กับเกษตรกรได้อย่างมากมาย หากเกษตรกรศึกษาข้อมูลและวางแผนอย่างรอบคอบ การทำสวนเลี้ยงสัตว์ก็สามารถประสบความสำเร็จและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้อย่างยั่งยืน

ลวดหนาม
รั้วลวดหนาม

330
**เลี้ยงแกะ อาชีพเสริม รายได้ดี**

การเลี้ยงแกะเป็นอาชีพเสริมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นอาชีพที่ลงทุนไม่มาก ดูแลไม่ยุ่งยาก และสามารถให้ผลผลิตได้หลายอย่าง เช่น เนื้อ แกะพันธุ์ขน และมูลแกะ เลี้ยงแกะเป็นอาชีพเสริมสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้เป็นอย่างดี

**การเตรียมการเลี้ยงแกะ**

ก่อนเลี้ยงแกะควรเตรียมการดังนี้

* **เลือกพื้นที่เลี้ยง** พื้นที่เลี้ยงควรมีแสงแดดส่องถึง มีอากาศถ่ายเทสะดวก และอยู่ห่างจากแหล่งชุมชน
* **สร้างคอกแกะ** คอกแกะควรมีขนาดใหญ่พอสำหรับจำนวนแกะที่จะเลี้ยง คอกควรมีหลังคาเพื่อป้องกันแดดและฝน มีประตูและหน้าต่างระบายอากาศ
* **เตรียมอุปกรณ์เลี้ยงแกะ** อุปกรณ์เลี้ยงแกะ ได้แก่ อาหารแกะ น้ำดื่มแกะ หญ้าแห้ง กรงเลี้ยงแกะ

**การดูแลรักษาแกะ**

การดูแลรักษาแกะสามารถทำได้ดังนี้

* **ให้อาหารแกะ** ควรให้อาหารแกะอย่างสม่ำเสมอ อาหารแกะควรมีครบถ้วนทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน และเกลือแร่
* **ให้น้ำดื่มแกะ** ควรให้น้ำดื่มแกะอย่างสะอาดและเพียงพอ
* **ทำความสะอาดคอกแกะ** ควรทำความสะอาดคอกแกะอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขอนามัยที่ดีของแกะ
* **ป้องกันโรคแกะ** ควรหมั่นตรวจสุขภาพแกะอย่างสม่ำเสมอ และป้องกันโรคแกะตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่

**เคล็ดลับการเลี้ยงแกะ**

* เลือกสายพันธุ์แกะที่เหมาะกับความต้องการของตนเอง
* เตรียมการเลี้ยงแกะให้พร้อมก่อนเลี้ยง
* ดูแลรักษาแกะอย่างสม่ำเสมอ

การเลี้ยงแกะเป็นอาชีพเสริมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นอาชีพที่ลงทุนไม่มาก ดูแลไม่ยุ่งยาก และสามารถให้ผลผลิตได้หลายอย่าง เพียงปฏิบัติตามขั้นตอนข้างต้นก็สามารถเลี้ยงแกะให้ประสบความสำเร็จ

**ข้อดีของการเลี้ยงแกะ**

* ลงทุนเริ่มต้นไม่สูง
* ดูแลไม่ยุ่งยาก
* สามารถให้ผลผลิตได้หลายอย่าง
* ทนทานต่อสภาพอากาศและโรคภัยไข้เจ็บ
* ตลาดมีความต้องการสูง

**ข้อเสียของการเลี้ยงแกะ**

* ต้องใช้แรงงานค่อนข้างมาก
* เสี่ยงต่อโรคระบาด

**ช่องทางการจำหน่ายผลผลิตแกะ**

* ขายส่งให้กับพ่อค้าคนกลาง
* ขายปลีกให้กับผู้บริโภคโดยตรง
* แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น เนื้อแกะสด เนื้อแกะแช่แข็ง แกะพันธุ์ขน ฯลฯ

การเลี้ยงแกะเป็นอาชีพเสริมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพียงศึกษาข้อมูลและเตรียมการอย่างรอบคอบก็สามารถเลี้ยงแกะให้ประสบความสำเร็จ

โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนาม ตาข่ายถัก

หน้า: 1 ... 9 10 [11] 12 13