ติดต่อลงโฆษณา [email protected]

ผู้เขียน หัวข้อ: ที่มาของทรงผมยอดฮิต ทรงผมบัน  (อ่าน 69 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Cloudsupachai111

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 124,183
    • ดูรายละเอียด

ทรงผมบัน หรือทรงผมมัดจุก เป็นทรงผมที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน โดยพบหลักฐานของทรงผมบันในวัฒนธรรมต่างๆ ทั่วโลก ตัวอย่างเช่น

  • ในวัฒนธรรมกรีกโบราณ ผู้หญิงจะนิยมไว้ผมยาวและเกล้ามวยผมไว้ที่ด้านหลังศีรษะ เรียกว่าทรง "โฮปโคน" (Hoplon)
  • ในวัฒนธรรมญี่ปุ่นโบราณ ผู้หญิงจะนิยมเกล้าผมเป็นทรงสูงและประดับด้วยเครื่องประดับต่างๆ เรียกว่าทรง "ชิโนบุชิ" (Shinobushi)
  • ในวัฒนธรรมจีนโบราณ ผู้หญิงจะนิยมเกล้าผมเป็นทรงสูงและประดับด้วยเครื่องประดับต่างๆ เรียกว่าทรง "กงปัน" (Gonpan)


ในประเทศไทย ทรงผมบันก็ได้รับความนิยมเช่นกัน โดยพบหลักฐานของทรงผมบันในสมัยสุโขทัย ผู้หญิงจะนิยมไว้ผมยาวและเกล้ามวยผมไว้ที่กลางศีรษะ เรียกว่าทรง "โซงโขดง"
ในยุคปัจจุบัน ทรงผมบันได้รับความนิยมอีกครั้ง โดยได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมป๊อปและดารานักแสดง ตัวอย่างเช่น นักแสดงหญิงชาวญี่ปุ่นอย่าง "กิโนะ ฟุกุชิมะ" เคยได้รับความนิยมอย่างมากจากทรงผมบันของเธอ
ทรงผมบันสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภท ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและวิธีการมัดผม ตัวอย่างเช่น

  • บันต่ำ เป็นทรงผมบันที่มัดผมไว้ที่ท้ายทอย
  • บันสูง เป็นทรงผมบันที่มัดผมไว้ที่ด้านบนศีรษะ
  • บันครึ่งหัว เป็นทรงผมบันที่มัดผมเพียงครึ่งหนึ่งของศีรษะ


ทรงผมบันเป็นทรงผมที่สามารถทำได้ง่ายและเหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัย อีกทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสไตล์การแต่งตัวได้หลากหลาย จึงเป็นทรงผมที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน
 
การทำทรงผมบันบ่อยๆ มีข้อเสียดังนี้
ทำให้ผมร่วง การมัดผมบันแน่นๆ บ่อยๆ จะทำให้เส้นผมเกิดการเสียดสีและดึงรั้งรากผม ซึ่งอาจทำให้ผมร่วงได้ โดยเฉพาะในผู้ที่ผมบางอยู่แล้ว อาจทำให้เส้นผมแห้งและเปราะบาง ทำให้ผมเสียทรง การมัดผมบันซ้ำๆ จะทำให้ผมเสียทรงและชี้ฟู ซึ่งอาจทำให้ผมดูไม่เงางาม ทำให้ผมขาดความชุ่มชื้น การมัดผมบันแน่นๆ จะทำให้หนังศีรษะไม่สามารถระบายอากาศได้ดี ส่งผลให้หนังศีรษะแห้งและผมขาดความชุ่มชื้น
คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : นางงาม

เครดิต : https://wi-mesnowboards.com/

Tags :  เคล็ดลับผิวขาว, ทรงผม, ความรัก