ติดต่อลงโฆษณา [email protected]

ผู้เขียน หัวข้อ: ปลูกกล้วยในพื้นที่ว่างเปล่าสร้างผลผลิตและรายได้  (อ่าน 1144 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
ห่มดิน เลี้ยงดินให้ดินเลี้ยงเรา

การทำห่มดิน เลี้ยงดิน ดูแลดินแล้วให้ดินเลี้ยงพืช
การห่มดิน คือ เป็นการป้องกันการระเหยของความชื้นที่อยู่ในดิน ซึ่งความชื้นในดินมีความสำคัญมากต่อการเจริญเติบโตของพืช ซึ่งการควบคุมความชื้นของดินให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของพืชในแต่ละชนิด สามารถทำได้ด้วยการใช้เซ็นเซอร์เข้ามาช่วยตรวจวัด

ระดับความชื้นที่พืชสามารถรับได้จะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ ดังนี้

ความชื้น 80% – 100% : สภาวะอันตรายต่อพืช ถ้ามีความชื้นสูงในระดับนี้เป็นเวลานาน มีโอกาสสูงมากที่จะทำให้รากเน่า หรือเกิดเชื้อราขึ้นได้
ความชื้น 70% – 79% : สภาวะดินแฉะ หากไม่ควบคุมให้ดี หรือปล่อยเป็นเวลานานก็อาจเข้าสู่สภาวะอันตรายได้
ความชื้น 50% -69% : สภาวะที่พืชชอบ เนื่องจากพืชจะมีการเจริญเติบโตได้ดีที่สุดในสภาวะนี้
ความชื้น 40% – 49% : สภาวะแห้ง ควรเพิ่มความชื้นให้แก่ดิน เพื่อให้พืชเจริญเติบโตได้
ความชื้น 0% – 39% : สภาวะวิกฤติ สามารถทำให้พืชแห้งและเหี่ยวเฉาตายได้
หากความชื้นในดินต่ำ สามารถเพิ่มการให้น้ำ เพื่อเพิ่มความชื้นให้กับดิน แต่ถ้าหากเป็นพื้นที่แห้งแล้งมาก มีการระเหยของน้ำสูง อาจต้องใช้วิทีห่มดินเข้ามาช่วย โดยหลักการคือ นำวัสดุต่างๆ มาปกคลุมไว้ที่หน้าดินเพื่อกักเก็บความชื้นไว้ในดิน

สินค้าเหมาะสมกับการดูแลสวนและที่ดิน รั้วตาข่าย รั้วแรงดึง

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
**เลี้ยงแมว สัตว์เลี้ยงแสนรัก เป็นเพื่อนคู่ใจ**

แมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นสัตว์ที่น่ารัก ขี้อ้อน และสามารถเข้ากับคนได้ดี การเลี้ยงแมวเป็นกิจกรรมที่สร้างความเพลิดเพลินและความสุขให้กับเจ้าของเป็นอย่างมาก

**การเตรียมการเลี้ยงแมว**

ก่อนเลี้ยงแมวควรเตรียมการดังนี้

* **ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับแมว** ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสายพันธุ์แมว นิสัยและความต้องการพื้นฐานของแมว เพื่อให้สามารถเลี้ยงแมวได้อย่างเหมาะสม
* **เตรียมความพร้อมด้านสถานที่** ควรเตรียมพื้นที่สำหรับเลี้ยงแมวให้เพียงพอกับขนาดของแมว
* **เตรียมอุปกรณ์สำหรับเลี้ยงแมว** ควรเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับเลี้ยงแมว เช่น อาหาร น้ำดื่ม กระบะทราย เปลนอน ของเล่น เป็นต้น

**การดูแลรักษาแมว**

การดูแลรักษาแมวสามารถทำได้ดังนี้

* **ให้อาหารแมว** ควรให้อาหารแมวอย่างสม่ำเสมอ อาหารแมวควรมีครบถ้วนทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน และเกลือแร่
* **ให้น้ำดื่มแมว** ควรให้น้ำดื่มแมวอย่างสะอาดและเพียงพอ
* **ทำความสะอาดกระบะทรายแมว** ควรทำความสะอาดกระบะทรายแมวทุกวัน
* **พาแมวไปตรวจสุขภาพ** ควรพาแมวไปตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย

**ข้อดีของการเลี้ยงแมว**

* เป็นสัตว์ที่น่ารัก ขี้อ้อน และสามารถเข้ากับคนได้ดี
* สามารถช่วยบำบัดความเครียดและโรคซึมเศร้าได้
* สามารถช่วยกำจัดหนูและแมลงในบ้านได้

**ข้อเสียของการเลี้ยงแมว**

* อาจก่อให้เกิดปัญหาด้านมลภาวะได้ เช่น กลิ่นมูลแมว เป็นต้น
* อาจก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาได้ เช่น ค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่ายา เป็นต้น

**ช่องทางการหาแมวมาเลี้ยง**

สามารถหาแมวมาเลี้ยงได้จากแหล่งต่างๆ ดังนี้

* ซื้อจากฟาร์มแมว
* รับเลี้ยงจากสถานสงเคราะห์สัตว์
* หามาเลี้ยงจากเพื่อนหรือญาติ

การเลี้ยงแมวเป็นกิจกรรมที่สร้างความเพลิดเพลินและความสุขให้กับเจ้าของเป็นอย่างมาก เพียงศึกษาข้อมูลและเตรียมการอย่างรอบคอบก็สามารถเลี้ยงแมวให้มีความสุขได้

**เคล็ดลับการเลี้ยงแมว**

* ควรให้ความรักและความเอาใจใส่แก่แมวอย่างสม่ำเสมอ
* ควรฝึกสอนแมวให้เชื่อฟังคำสั่ง เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
* ควรพาแมวไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคเป็นประจำ
* ควรหมั่นทำความสะอาดบ้านอยู่เสมอ เพื่อกำจัดกลิ่นมูลแมวและป้องกันโรคติดต่อ

การเลี้ยงแมวเป็นกิจกรรมที่ต้องใช้ความอดทนและความเข้าใจ หากสามารถเลี้ยงแมวได้อย่างเหมาะสมแล้ว แมวจะเป็นสัตว์เลี้ยงที่แสนรักและเป็นเพื่อนคู่ใจที่ดีให้กับเจ้าของ

โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย รั้วแรงดึง

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
ปลูกป่า คืนความอุดมสมบูรณ์ให้กับผืนดิน

การปลูกป่าเป็นกิจกรรมที่มีความสำคัญต่อการรักษาสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศของโลก ต้นไม้เป็นสิ่งมีชีวิตที่ช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และผลิตออกซิเจนให้กับโลก อีกทั้งยังช่วยรักษาความชุ่มชื้นของดินและป้องกันการกัดเซาะดิน นอกจากนี้ ต้นไม้ยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิดอีกด้วย

ประเทศไทยมีพื้นที่ป่าลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สาเหตุหลักมาจากการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อการเกษตร อุตสาหกรรม และที่อยู่อาศัย ส่งผลให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมและภัยพิบัติต่างๆ ตามมามากมาย เช่น ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ปัญหาอุทกภัย และปัญหาภัยแล้ง

การปลูกป่าจึงเป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและภัยพิบัติต่างๆ ที่เกิดขึ้น การปลูกป่าสามารถช่วยฟื้นฟูพื้นที่ป่าที่เสียหายให้กลับคืนสู่สภาพเดิมได้ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับโลกอีกด้วย

ประโยชน์ของการปลูกป่า

การปลูกป่ามีประโยชน์มากมายต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศของโลก ดังนี้

ช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และผลิตออกซิเจนให้กับโลก
ช่วยรักษาความชุ่มชื้นของดินและป้องกันการกัดเซาะดิน
ช่วยรักษาสมดุลของวัฏจักรน้ำ
ช่วยเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด
ช่วยป้องกันน้ำท่วมและดินถล่ม
ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับโลก
วิธีการปลูกป่า

การปลูกป่าสามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้

การปลูกป่าด้วยเมล็ด
การปลูกป่าด้วยกล้าไม้
การปลูกป่าด้วยกิ่งตอนหรือทาบกิ่ง
การปลูกป่าด้วยวิธีการขุดหลุมปลูก
การปลูกป่าด้วยวิธีการปลูกแบบถาวร
การเลือกวิธีการปลูกป่าที่เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น สภาพภูมิประเทศ สภาพดิน ชนิดของต้นไม้ และเป้าหมายของการปลูกป่า

การปลูกป่า สามารถทำได้ทุกคน

การปลูกป่าเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ทุกคน ไม่จำกัดเพศ อายุ หรือฐานะ เราสามารถมีส่วนร่วมในการปลูกป่าได้ดังนี้

เข้าร่วมกิจกรรมปลูกป่าที่จัดโดยหน่วยงานต่างๆ
ปลูกป่าด้วยตัวเองที่บ้านหรือในบริเวณใกล้เคียง
บริจาคเงินเพื่อสนับสนุนโครงการปลูกป่า
การปลูกป่าเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศของโลก ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการปลูกป่าได้ เพื่อคืนความอุดมสมบูรณ์ให้กับผืนดินและสร้างโลกที่ยั่งยืนให้กับคนรุ่นต่อไป

โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย รั้วแรงดึง

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
ปลูกป่า คืนความอุดมสมบูรณ์ให้กับผืนดิน

การปลูกป่าเป็นกิจกรรมที่มีความสำคัญต่อการรักษาสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศของโลก ต้นไม้เป็นสิ่งมีชีวิตที่ช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และผลิตออกซิเจนให้กับโลก อีกทั้งยังช่วยรักษาความชุ่มชื้นของดินและป้องกันการกัดเซาะดิน นอกจากนี้ ต้นไม้ยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิดอีกด้วย

ประเทศไทยมีพื้นที่ป่าลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สาเหตุหลักมาจากการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อการเกษตร อุตสาหกรรม และที่อยู่อาศัย ส่งผลให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมและภัยพิบัติต่างๆ ตามมามากมาย เช่น ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ปัญหาอุทกภัย และปัญหาภัยแล้ง

การปลูกป่าจึงเป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและภัยพิบัติต่างๆ ที่เกิดขึ้น การปลูกป่าสามารถช่วยฟื้นฟูพื้นที่ป่าที่เสียหายให้กลับคืนสู่สภาพเดิมได้ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับโลกอีกด้วย

ประโยชน์ของการปลูกป่า

การปลูกป่ามีประโยชน์มากมายต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศของโลก ดังนี้

ช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และผลิตออกซิเจนให้กับโลก
ช่วยรักษาความชุ่มชื้นของดินและป้องกันการกัดเซาะดิน
ช่วยรักษาสมดุลของวัฏจักรน้ำ
ช่วยเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด
ช่วยป้องกันน้ำท่วมและดินถล่ม
ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับโลก
วิธีการปลูกป่า

การปลูกป่าสามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้

การปลูกป่าด้วยเมล็ด
การปลูกป่าด้วยกล้าไม้
การปลูกป่าด้วยกิ่งตอนหรือทาบกิ่ง
การปลูกป่าด้วยวิธีการขุดหลุมปลูก
การปลูกป่าด้วยวิธีการปลูกแบบถาวร
การเลือกวิธีการปลูกป่าที่เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น สภาพภูมิประเทศ สภาพดิน ชนิดของต้นไม้ และเป้าหมายของการปลูกป่า

การปลูกป่า สามารถทำได้ทุกคน

การปลูกป่าเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ทุกคน ไม่จำกัดเพศ อายุ หรือฐานะ เราสามารถมีส่วนร่วมในการปลูกป่าได้ดังนี้

เข้าร่วมกิจกรรมปลูกป่าที่จัดโดยหน่วยงานต่างๆ
ปลูกป่าด้วยตัวเองที่บ้านหรือในบริเวณใกล้เคียง
บริจาคเงินเพื่อสนับสนุนโครงการปลูกป่า
การปลูกป่าเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศของโลก ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการปลูกป่าได้ เพื่อคืนความอุดมสมบูรณ์ให้กับผืนดินและสร้างโลกที่ยั่งยืนให้กับคนรุ่นต่อไป

โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย รั้วแรงดึง

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
**เลี้ยงไก่ แบบง่าย**

การเลี้ยงไก่เป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากไก่เป็นสัตว์เลี้ยงที่เลี้ยงง่าย โตไว และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เช่น ไข่ไก่ เนื้อไก่ เป็นต้น

การเลี้ยงไก่แบบง่าย สามารถทำได้ดังนี้

1. **เลือกสายพันธุ์ไก่** ควรเลือกสายพันธุ์ไก่ที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ในการเลี้ยง เช่น หากต้องการเลี้ยงเพื่อเก็บไข่ ควรเลือกสายพันธุ์ไก่ที่วางไข่ดก เช่น โรดไอแลนด์เรด เลห์กอร์ เป็นต้น หากต้องการเลี้ยงเพื่อเก็บเนื้อ ควรเลือกสายพันธุ์ไก่ที่โตเร็วและให้เนื้อเยอะ เช่น ไก่เบตเตอร์คอก เป็นต้น

2. **เตรียมสถานที่เลี้ยง** สถานที่เลี้ยงไก่ควรเป็นสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก อยู่ห่างจากแหล่งมลพิษ และมีพื้นที่เพียงพอสำหรับเลี้ยงไก่

3. **เตรียมอุปกรณ์เลี้ยง** อุปกรณ์เลี้ยงไก่ที่จำเป็น ได้แก่ กรงเลี้ยง อาหารไก่ น้ำดื่มไก่

4. **เลี้ยงไก่** การดูแลไก่เลี้ยงง่าย ๆ สามารถทำได้ดังนี้

* รดน้ำให้ไก่วันละ 1-2 ครั้ง
* ให้อาหารไก่วันละ 2-3 ครั้ง
* เก็บไข่ไก่ทุกวัน
* ทำความสะอาดกรงเลี้ยงไก่สัปดาห์ละ 1 ครั้ง

5. **ป้องกันโรค** ควรหมั่นสังเกตอาการของไก่ หากพบอาการผิดปกติควรรีบนำไก่ไปพบสัตวแพทย์

ตัวอย่างสายพันธุ์ไก่ที่นิยมเลี้ยงในประเทศไทย ได้แก่

* **ไก่ไข่** เช่น โรดไอแลนด์เรด เลห์กอร์ ฮินดูบราห์มัน
* **ไก่เนื้อ** เช่น ไก่เบตเตอร์คอก ไก่โรดไอแลนด์แดง ไก่ฮาน
* **ไก่พื้นเมือง** เช่น ไก่ชน ไก่แจ้ ไก่บ้าน

การเลี้ยงไก่แบบง่าย สามารถทำได้ตามขั้นตอนข้างต้น เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ไก่เลี้ยงไว้รับประทานหรือจำหน่ายสร้างรายได้

โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย รั้วแรงดึง

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
ปลูกกล้วยในพื้นที่ว่างเปล่าสร้างผลผลิตและรายได้


หลายคนมีพื้นที่ดินว่างเปล่าที่เต็มไปด้วยวัชพืชนานาชนิดและไม่ได้จัดการอะไร ช่วงฤดูแล้งอย่างนี้หญ้าเริ่มเหี่ยวแห้ง มาจัดการพื้นที่รกร้างที่มีอยู่ แล้วมา ” ปลูกกล้วย ” กันดีกว่า
กล้วยเป็นผลไม้พื้นบ้านที่คนไทยรู้จักกันมานาน เพราะทุกส่วนของกล้วยทั้งลำต้น ใบ ดอก ผล เหง้า และยังขยายพันธุ์ง่ายด้วยการแบ่งหน่อ หรือผ่าเหง้าไปปลูกต่อ จึงพบกล้วยขึ้นอยู่ทั่วไปในบ้านเรา และเป็นผลไม้ที่ไม่ค่อยมีใครให้ความสำคัญกันมากนัก ทั้ง ๆ ที่กล้วยมีประโยชน์มากมาย

ช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมา ผลกล้วยน้ำว้ามีราคาสูงขึ้น เนื่องจากมีการปลูกลดลง อีกทั้งสภาพแห้งแล้ง ทำให้หลายคนหันกลับมาปลูกกล้วยเป็นอาชีพ สร้างรายได้ให้กับครอบครัว แต่การปลูกอย่างไรให้ได้ผลผลิตดีๆ มาเรียนรู้กัน

สิ่งแรกที่ควรคำนึงถึงคือ “สภาพพื้นที่และดินในบริเวณนั้น” แม้ว่ากล้วยจะเป็นพืชที่ทนทาน แต่การปลูกกล้วยให้ได้ผลผลิตที่ดี ดินปลูกควรมีอินทรีย์วัตถุและความชุ่มชื้นเพียงพอ “แสงแดด” เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ต้องคำนึงถึง กล้วยชอบแสงแดดจัด หากพื้นที่ดีแต่แสงแดดน้อยมักไม่ออกเครือ หรือคุณภาพผลผลิตไม่ดีพอ

นอกจากนี้ “น้ำ” ก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการปลูกกล้วย แม้กว่ากล้วยเป็นพีชที่กักเก็บน้ำในลำต้นได้ดี แต่ถ้าได้รับน้ำไม่เพียงพอ ต้นจะเติบโตได้ไม่ดีนัก จึงควรติดตั้งระบบให้น้ำไว้บ้างเพื่อต้นกล้วยเติบโตอย่างสมบูรณ์ ให้ผลผลิตที่ดีมีคุณภาพ

โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย รั้วแรงดึง


ทีมา baanlaesuan.com

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง คืออะไร

คือ ภาษีรายปีที่เก็บและคิดจากมูลค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้างที่เราครอบครอง โดยมีองค์กรท้องถิ่น เช่น เทศบาล อบต. เป็นผู้จัดเก็บ

โดยผู้ที่ต้องเสียภาษีที่ดินต้องมีเงื่อนไขดังนี้

1. เจ้าของกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ (ดูตามโฉนด ไม่ใช่ทะเบียนบ้าน)

2. ผู้ครอบครอง/ทำประโยชน์ในที่ดินนั้น จะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลก็ได้

ซึ่งกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 2562 เป็นกฎหมายที่มาแทนที่ ภาษีโรงเรือนและที่ดิน กับ ภาษีบำรุงท้องที่ ซึ่งซ้ำซ้อนกัน

ประเภทของภาษีที่ดิน 2566 แบ่งประเภทที่ดินที่ต้องเสียภาษีไว้ 4 รายการ

1. ที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม

2. ที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย

3. ที่ดินเพื่อพาณิชยกรรม

4. ที่ดินรกร้างว่างเปล่า

โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย รั้วแรงดึง

ที่มา www.kwilife.com

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด


ลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้กับที่ดินบางประเภท
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบให้มีการปรับลดอัตราการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 2566 สำหรับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างบางประเภท โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ได้รับการลดภาษีตามพระราชกฤษฎีกาลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2563 ให้ลดภาษีในอัตรา 15% ของจำนวนภาษีที่คำนวณได้ ตัวอย่างกรณีที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่เคยได้รับการลดภาษี ได้แก่ โรงพยาบาล ร้านทำผม ร้านอาหาร ร้านล้างรถ และห้างสรรพสินค้า
2. ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับการลดภาษี 50% ตามพระราชกฤษฎีกาลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2563 เมื่อคำนวณลดภาษีในอัตรา 50% ของจำนวนภาษีที่จะต้องเสียแล้ว ให้ลดภาษีลงอีกในอัตรา 15% ของจำนวนภาษีที่ลดไปแล้ว 50% ตัวอย่างกรณีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่ได้รับการลดภาษี 50% ได้แก่
– ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่เจ้าของเป็นบุคคลธรรมดาใช้เป็นที่อยู่อาศัยและมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน เฉพาะทรัพย์สินที่บุคคลดังกล่าวได้มาทางมรดกและได้จดทะเบียนแล้วก่อนวันที่ 13 มีนาคม 2562
– ที่ดินที่ตั้งของโรงผลิตไฟฟ้า
– ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็นเขื่อน
3. กรณีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่ได้รับการลดภาษี 90% ตามพ.ร.ฎ.ลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2563 แล้ว จะไม่ได้รับการลดภาษีเพิ่มอีก เนื่องจากมาตรา 55 แห่ง พร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 จะมีอัตราการลดภาษีสูงสุดอยู่ที่ 90% ได้แก่
– โรงเรียนในระบบ
– โรงเรียนนอกระบบ (ประเภทสอนศาสนา ตาดีกา ปอเนาะ)
– สวนสัตว์ที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย
– สวนสนุกที่มีเครื่องเล่นที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย

โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนาม ตาข่ายถัก
รั้วตาข่าย รั้วแรงดึง

ที่มา ddproperty

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
ลวดหนาม คืออะไร?

ลวดหนาม

ลวดหนามเป็นอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นเส้นลวดที่นำมาดัดเป็นเกลียว และมีปมหนามที่แหลมคม 3-4 แฉก เส้นลวดทำมาจากโลหะที่มีความแข็งแรงทนทาน

ลวดหนามนิยมนำมาใช้ในการล้อมพื้นที่ต่าง ๆ เช่น ล้อมสวน ล้อมที่ดิน ล้อมโรงงาน เพื่อป้องกันไม่ให้คนและสัตว์เข้ามาบุกรุก รวมไปถึงใช้เป็นรั้วบอกเขตแดน

จุดกำเนิดของลวดหนามเริ่มขึ้นในสหรัฐอเมริกา ในปี ค.ศ. 1867 โดยนายโจเซฟ ฟราย ชาวอเมริกัน ซึ่งได้จดสิทธิบัตรลวดหนามชนิดแรกของโลก ลวดหนามในสมัยนั้นมีลักษณะเป็นเส้นลวดบาง ๆ พันด้วยหนามแหลมคม 2-4 แฉก

ลวดหนามได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นรั้วที่มีประสิทธิภาพสูง ราคาถูก และติดตั้งได้ง่าย

ปัจจุบัน ลวดหนามมีหลากหลายรูปแบบ มีทั้งลวดหนามแบบธรรมดา ลวดหนามแบบมีตาข่าย ลวดหนามแบบมีไฟฟ้า เป็นต้น

ประโยชน์ของลวดหนาม

ลวดหนามมีประโยชน์มากมาย ดังนี้

ใช้เป็นรั้วป้องกันความปลอดภัย
ใช้เป็นรั้วกั้นเขตแดน
ใช้เป็นรั้วล้อมสวนหรือที่ดิน
ใช้เป็นรั้วเลี้ยงปศุสัตว์
ใช้เป็นรั้วป้องกันสิ่งอันตรายจากผู้บุกรุก
ข้อควรระวังในการใช้ลวดหนาม

การใช้ลวดหนามควรระมัดระวังอันตรายจากหนามแหลมคม ซึ่งอาจทำให้ได้รับบาดเจ็บได้ ควรติดตั้งลวดหนามให้ห่างจากตัวอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างอย่างน้อย 2 เมตร และไม่ควรปีนป่ายหรือสัมผัสกับลวดหนามโดยเด็ดขาด

สรุป

ลวดหนามเป็นอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพสูง ราคาถูก และติดตั้งได้ง่าย นิยมนำมาใช้ในการล้อมพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อป้องกันการบุกรุกจากคนและสัตว์
ลวดหนาม ตาข่ายถัก
รั้วตาข่าย รั้วแรงดึง

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
**ดูแลสวน**

การดูแลสวนเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้สวนสวยงามและน่าอยู่ การดูแลสวนสามารถทำได้หลายอย่าง ดังนี้

* **การให้น้ำ** ต้นไม้ต้องการน้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน ควรรดน้ำต้นไม้อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง ในช่วงเช้าหรือเย็น

* **การให้ปุ๋ย** ปุ๋ยช่วยบำรุงดินและช่วยให้ต้นไม้เจริญเติบโตได้ดี ควรใส่ปุ๋ยบำรุงดินปีละ 2 ครั้ง ครั้งแรกในช่วงต้นฤดูฝน ครั้งที่สองในช่วงปลายฤดูฝน

* **การตัดแต่งกิ่ง** การตัดแต่งกิ่งจะช่วยให้ต้นไม้มีทรงสวยและแข็งแรง ควรตัดแต่งกิ่งปีละ 1 ครั้ง ในช่วงฤดูหนาว

* **การป้องกันศัตรูพืชและโรคพืช** หมั่นตรวจดูต้นไม้เป็นประจำ หากพบศัตรูพืชหรือโรคพืช ให้ใช้สารเคมีป้องกันกำจัดตามคำแนะนำ

* **กำจัดวัชพืช** วัชพืชแย่งอาหารและน้ำจากต้นไม้ ควรกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ

* **ทำความสะอาดสวน** หมั่นทำความสะอาดสวน เช่น กวาดใบไม้แห้ง เก็บกวาดขยะ เป็นต้น

**เคล็ดลับการดูแลสวน**

* **เลือกต้นไม้ที่ปลูกง่าย ดูแลรักษาง่าย** จะช่วยให้การดูแลสวนง่ายขึ้น

* **จัดวางต้นไม้ให้เหมาะสมกับพื้นที่** จะช่วยให้สวนดูสวยงามและใช้ประโยชน์ได้เต็มพื้นที่

* **หมั่นดูแลรักษาต้นไม้อย่างสม่ำเสมอ** จะช่วยให้ต้นไม้เจริญเติบโตได้ดีและสวยงาม

การดูแลสวนควรทำอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้สวนสวยงามและน่าอยู่ นอกจากจะทำให้บ้านร่มรื่นและสดชื่นแล้ว ยังช่วยผ่อนคลายความเครียดและสร้างความสุขให้กับผู้คนอีกด้วย

โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนาม ตาข่ายถัก
รั้วตาข่าย รั้วแรงดึง

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
ลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 2566

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้มีการปรับลดอัตราการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 2566 สำหรับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างบางประเภท โดยมีรายละเอียดดังนี้

ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่ได้รับการลดภาษีตามพระราชกฤษฎีกาลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2563 ให้ลดภาษีในอัตรา 15% ของจำนวนภาษีที่คำนวณได้ ตัวอย่างกรณีที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่เคยได้รับการลดภาษี ได้แก่ โรงพยาบาล ร้านทำผม ร้านอาหาร ร้านล้างรถ และห้างสรรพสินค้า

ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับการลดภาษี 50% ตามพระราชกฤษฎีกาลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2563 เมื่อคำนวณลดภาษีในอัตรา 50% ของจำนวนภาษีที่จะต้องเสียแล้ว ให้ลดภาษีลงอีกในอัตรา 15% ของจำนวนภาษีที่ลดไปแล้ว 50% ตัวอย่างกรณีที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง ที่ได้รับการลดภาษี 50% ได้แก่

ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่เจ้าของเป็นบุคคลธรรมดาใช้เป็นที่อยู่อาศัยและมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน เฉพาะทรัพย์สินที่บุคคลดังกล่าวได้มาทางมรดกและได้จดทะเบียนแล้วก่อนวันที่ 13 มีนาคม 2562
ที่ดินที่ตั้งของโรงผลิตไฟฟ้า
ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็นเขื่อน
กรณีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่ได้รับการลดภาษี 90% ตามพ.ร.ฎ.ลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2563 แล้ว จะไม่ได้รับการลดภาษีเพิ่มอีก เนื่องจากมาตรา 55 แห่ง พร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 จะมีอัตราการลดภาษีสูงสุดอยู่ที่ 90% ตัวอย่างกรณีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่ได้รับการลดภาษี 90% ได้แก่

โรงเรียนในระบบ
โรงเรียนนอกระบบ (ประเภทสอนศาสนา ตาดีกา ปอเนาะ)
สวนสัตว์ที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย
สวนสนุกที่มีเครื่องเล่นที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย
การปรับลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยคาดว่าจะช่วยลดภาระภาษีให้กับประชาชนได้ประมาณ 2.2 หมื่นล้านบาท

โปรโมชั่นสำหรับคุณ
 รั้วตาข่าย รั้วแรงดึง
ลวดหนาม จำหน่ายลวดหนามหลากหลายประเภท คุณภาพดี ราคาประหยัด
ตาข่ายถัก จำหน่ายตาข่ายถักหลากหลายประเภท แข็งแรงทนทาน ติดตั้งง่าย
ที่มา

ddproperty.com

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
ห่มดิน เลี้ยงดินให้ดินเลี้ยงเรา

การทำห่มดิน เลี้ยงดิน ดูแลดินแล้วให้ดินเลี้ยงพืช
การห่มดิน คือ เป็นการป้องกันการระเหยของความชื้นที่อยู่ในดิน ซึ่งความชื้นในดินมีความสำคัญมากต่อการเจริญเติบโตของพืช ซึ่งการควบคุมความชื้นของดินให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของพืชในแต่ละชนิด สามารถทำได้ด้วยการใช้เซ็นเซอร์เข้ามาช่วยตรวจวัด

ระดับความชื้นที่พืชสามารถรับได้จะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ ดังนี้

ความชื้น 80% – 100% : สภาวะอันตรายต่อพืช ถ้ามีความชื้นสูงในระดับนี้เป็นเวลานาน มีโอกาสสูงมากที่จะทำให้รากเน่า หรือเกิดเชื้อราขึ้นได้
ความชื้น 70% – 79% : สภาวะดินแฉะ หากไม่ควบคุมให้ดี หรือปล่อยเป็นเวลานานก็อาจเข้าสู่สภาวะอันตรายได้
ความชื้น 50% -69% : สภาวะที่พืชชอบ เนื่องจากพืชจะมีการเจริญเติบโตได้ดีที่สุดในสภาวะนี้
ความชื้น 40% – 49% : สภาวะแห้ง ควรเพิ่มความชื้นให้แก่ดิน เพื่อให้พืชเจริญเติบโตได้
ความชื้น 0% – 39% : สภาวะวิกฤติ สามารถทำให้พืชแห้งและเหี่ยวเฉาตายได้
หากความชื้นในดินต่ำ สามารถเพิ่มการให้น้ำ เพื่อเพิ่มความชื้นให้กับดิน แต่ถ้าหากเป็นพื้นที่แห้งแล้งมาก มีการระเหยของน้ำสูง อาจต้องใช้วิทีห่มดินเข้ามาช่วย โดยหลักการคือ นำวัสดุต่างๆ มาปกคลุมไว้ที่หน้าดินเพื่อกักเก็บความชื้นไว้ในดิน

สินค้าเหมาะสมกับการดูแลสวนและที่ดิน รั้วตาข่าย รั้วแรงดึง
ลวดหนาม ตาข่ายถัก

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
เลี้ยงไส้เดือนดิน งานวัยเกษียณทำอยู่บ้าน สร้างเงินได้

หลายท่านจะคุ้นเคยกับข้อดีของไส้เดือนในเรื่องการพรวนดินเพียงอย่างเดียว แต่ข้อดีของไส้เดือนดินยังไม่หมดแค่นี้
ยังมีมูลที่ใช้แทนปุ๋ยคอกได้เป็นอย่างดี

มูลไส้เดือนเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่มีประโยชน์จำนวนมหาศาล ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้นพืชต้องการ เมื่อผสมมูลไส้เดือนในปริมาณเล็กน้อยกับวัสดุที่จะใช้ปลูก ได้แก่ ดินผสมหรือดินในอัตราส่วน 1:4 (มูลไส้เดือน:วัสดุที่จะใช้ปลูก) ก็จะได้มูลไส้เดือนที่อุดมสมบูรณ์ ทั้งใช้ได้ทันทีและเก็บไว้ได้นาน  ซึ่งเมื่อใช้จะสร้างโอเอซิสหรือรักษาความชื้นที่เหมาะสำหรับการทำงานของแบคทีเรีย งานนี้รับผิดชอบสำหรับการย่อยสลายสารชีวภาพ แปรรูปเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับพืช

ประโยชน์ของมูลไส้เดือน

มูลไส้เดือนเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่มีประโยชน์จำนวนมหาศาล ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้นพืชต้องการ เมื่อผสมมูลไส้เดือนในปริมาณเล็กน้อยกับวัสดุที่จะใช้ปลูก ได้แก่ ดินผสมหรือดินในอัตราส่วน 1:4 (มูลไส้เดือน:วัสดุที่จะใช้ปลูก) ก็จะได้มูลไส้เดือนที่อุดมสมบูรณ์ ทั้งใช้ได้ทันทีและเก็บไว้ได้นาน  ซึ่งเมื่อใช้จะสร้างโอเอซิสหรือรักษาความชื้นที่เหมาะสำหรับการทำงานของแบคทีเรีย งานนี้รับผิดชอบสำหรับการย่อยสลายสารชีวภาพ แปรรูปเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับพืช

แบคทีเรียในระบบย่อยอาหารของไส้เดือนจะผลิตตัวควบคุมการเติบโตของพืชและฮอร์โมนเพิ่มเติมที่รับผิดชอบสำหรับการเร่งเซลล์พืชให้ขยายและแบ่งตัว ซึ่งมีถึง 10,000 เท่าในมูลไส้เดือนมากกว่าในดินผสมทั่วไป
มูลไส้เดือนจะมีความสมบูรณ์ที่ลงตัวระหว่างสารชีวภาพและช่องว่างอากาศ ซึ่งเป็นความสมดุลที่เหมาะที่จะให้รากพืชเปราะบางชอนไชลงไปได้อย่างง่ายดายเพื่อหาสารอาหารและน้ำ ยิ่งรากมีมากเท่าไหร่ พืชก็จะสามารถรวบรวมอาหารและน้ำได้มากขึ้นเท่านั้นและทำให้พืชมีสุขภาพดีขึ้น
พืชที่ปลูกในกระถางนานๆ ปุ๋ยมูลไส้เดือนจะไม่ทำให้ดินแข็ง จึงสามารถยืดระยะเวลาการปลูกออกไปได้โดย ไม่ต้องเปลี่ยนกระถาง
ปลอดสารเคมี 100% ไม่เป็นพิษต่อคนสัตว์เลี้ยงและสภาพแวดล้อม
กรณีใช้ผสมดิน ที่เป็นดินเหนียว จะช่วยเพิ่มอากาศในดิน ทำให้ดินร่วนซุย และช่วยในการถ่ายเทน้ำและอากาศได้สะดวก
กรณีผสมดินที่เป็นดินทรายจะช่วยเพิ่มเนื้อดิน ช่วยให้ดินเก็บรักษาความชื้น และธาตุอาหารในดิน ลดการชะล้างธาตุอาหารของน้ำ
มูลไส้เดือนดินสามารถช่วยเก็บความชื้นและปลดปล่อยออกมาให้พืชอย่าง ช้าๆ เมื่อพืชต้องการยืดระยะเวลาการให้น้ำแก่พืชได้นานขึ้น
ช่วยลดปัญหาการสลายตัวของธาตุอาหารเป็นตัวปลดปล่อยธาตุอาหารอย่างช้าๆ ทำให้ประหยัดปุ๋ย ปกป้องดินไม่ให้มีสภาพโครงร้างแน่นเข็งและช่วยเติมอินทรียวัตถุในเนื้อดิน ช่วยให้ดินร่วนซุย รากพืชสามารถแพร่ขยายได้กว้าง
มูลไส้เดือนดินจะมีสารประกอบของกรดฮิวมิคซึ่งเป็นตัวกักเก็บธาตุ อาหารที่จำเป็นต่อพืชหลายชนิด เช่น ฟอสฟอรัส (P) โพแทสเซียม (K) แคลเซียม (Ca) เหล็ก (Fe) และทองแดง (Cu) ซึ่งธาตุอาหารเหล่านี้จะถูกเก็บอยู่ในโมเลกุลของกรดฮิวมิค อยู่ในรูปพร้อมใช้ และจะถูกปลดปล่อยออกมาเมื่อพืชต้องการ
มูลไส้เดือนไม่มีของแถม ที่ไม่พึงประสงค์ เช่นด้วง เชื้อราร้ายที่เขาไปทำลายพืช ไม่มีผลิตหญ้า ที่จะกลายมาเป็นมาเป็นวัชพืชในภายหลัง
มูลไส้เดือนมีโมเลกุลที่เล็กกว่า ปุ๋ยคอกทั่วไป ต้นไม้จึงดูดซับได้ง่ายและเร็วกว่า
มูลไส้เดือนเป็นปุ๋ยเย็นกว่าใช้กับต้นไม้ได้เลย ไม่ทำอันตรายกับต้นไม้ ต่างกับปุ๋ยคอกอื่น ที่ต้องผ่านการหมักก่อนถึงจะนำมาใช้ได้
โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนาม รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย ลวดหนาม

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
**สัตว์เหมาะแก่การหาเงิน**

สัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มนุษย์เลี้ยงไว้เพื่อประโยชน์หลายประการ เช่น เป็นแหล่งอาหาร เป็นเพื่อนคู่ใจ หรือเป็นสัตว์เลี้ยงสวยงาม ในปัจจุบัน ยังมีสัตว์อีกหลายชนิดที่สามารถนำมาเป็นอาชีพได้ หรือที่เรียกว่า "สัตว์เศรษฐกิจ" ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรหรือผู้เลี้ยงได้อย่างดี

**ปัจจัยในการเลือกสัตว์เศรษฐกิจ**

ในการเลือกสัตว์เศรษฐกิจนั้น จะต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายประการ ดังนี้

* **ความต้องการของตลาด** จะต้องเลือกสัตว์ที่มีความต้องการสูงในตลาด เพื่อที่จะขายผลผลิตได้ง่ายและได้ราคาดี
* **สภาพพื้นที่และภูมิประเทศ** จะต้องเลือกสัตว์ที่ทนต่อสภาพอากาศและสภาพแวดล้อมในพื้นที่นั้น ๆ
* **ความรู้และประสบการณ์ในการเลี้ยง** จะต้องเลือกสัตว์ที่มีความรู้และประสบการณ์ในการเลี้ยงอยู่บ้าง เพื่อที่จะดูแลสัตว์ให้เจริญเติบโตและแข็งแรง

**ตัวอย่างสัตว์เศรษฐกิจ**

ตัวอย่างสัตว์เศรษฐกิจที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ได้แก่

* **สัตว์เลี้ยงสวยงาม** เช่น ปลาสวยงาม นกสวยงาม สัตว์เลื้อยคลานสวยงาม เป็นต้น
* **สัตว์เศรษฐกิจเนื้อ** เช่น วัว หมู ไก่ เป็ด เป็นต้น
* **สัตว์เศรษฐกิจนม** เช่น วัว แพะ เป็นต้น
* **สัตว์เศรษฐกิจไข่** เช่น ไก่ เป็ด เป็นต้น
* **สัตว์เศรษฐกิจปีก** เช่น เป็ด ห่าน เป็นต้น
* **สัตว์เศรษฐกิจขน** เช่น แกะ แพะ เป็นต้น
* **สัตว์เศรษฐกิจหนัง** เช่น วัว หมู แพะ เป็นต้น
* **สัตว์เศรษฐกิจน้ำ** เช่น ปลานิล ปลาดุก ปลาตะเพียน เป็นต้น

**ข้อควรระวังในการเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจ**

ในการเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจนั้น จะต้องคำนึงถึงข้อควรระวังต่าง ๆ ดังนี้

* **ศึกษาข้อมูลและวางแผนอย่างรอบคอบ** ก่อนตัดสินใจเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจ ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์ชนิดนั้น ๆ อย่างละเอียด รวมถึงความต้องการของตลาดและสภาพพื้นที่ เพื่อที่จะประสบความสำเร็จในการเลี้ยง
* **ดูแลสัตว์อย่างเอาใจใส่** สัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ต้องมีการดูแลเอาใจใส่อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เจริญเติบโตและแข็งแรง
* **ป้องกันโรคระบาด** โรคระบาดเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในการเลี้ยงสัตว์ ควรป้องกันโรคระบาดอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้สัตว์ป่วยหรือตาย

สัตว์เศรษฐกิจเป็นอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรหรือผู้เลี้ยงได้เป็นอย่างดี หากศึกษาข้อมูลและวางแผนอย่างรอบคอบ ก็สามารถประสบความสำเร็จในการเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจและสร้างรายได้ได้อย่างยั่งยืน

โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนาม
ตาข่ายถักรั้วตาข่าย
รั้วแรงดึง

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
**เลี้ยงแมว สัตว์เลี้ยงแสนรัก เป็นเพื่อนคู่ใจ**

แมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นสัตว์ที่น่ารัก ขี้อ้อน และสามารถเข้ากับคนได้ดี การเลี้ยงแมวเป็นกิจกรรมที่สร้างความเพลิดเพลินและความสุขให้กับเจ้าของเป็นอย่างมาก

**การเตรียมการเลี้ยงแมว**

ก่อนเลี้ยงแมวควรเตรียมการดังนี้

* **ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับแมว** ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสายพันธุ์แมว นิสัยและความต้องการพื้นฐานของแมว เพื่อให้สามารถเลี้ยงแมวได้อย่างเหมาะสม
* **เตรียมความพร้อมด้านสถานที่** ควรเตรียมพื้นที่สำหรับเลี้ยงแมวให้เพียงพอกับขนาดของแมว
* **เตรียมอุปกรณ์สำหรับเลี้ยงแมว** ควรเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับเลี้ยงแมว เช่น อาหาร น้ำดื่ม กระบะทราย เปลนอน ของเล่น เป็นต้น

**การดูแลรักษาแมว**

การดูแลรักษาแมวสามารถทำได้ดังนี้

* **ให้อาหารแมว** ควรให้อาหารแมวอย่างสม่ำเสมอ อาหารแมวควรมีครบถ้วนทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน และเกลือแร่
* **ให้น้ำดื่มแมว** ควรให้น้ำดื่มแมวอย่างสะอาดและเพียงพอ
* **ทำความสะอาดกระบะทรายแมว** ควรทำความสะอาดกระบะทรายแมวทุกวัน
* **พาแมวไปตรวจสุขภาพ** ควรพาแมวไปตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย

**ข้อดีของการเลี้ยงแมว**

* เป็นสัตว์ที่น่ารัก ขี้อ้อน และสามารถเข้ากับคนได้ดี
* สามารถช่วยบำบัดความเครียดและโรคซึมเศร้าได้
* สามารถช่วยกำจัดหนูและแมลงในบ้านได้

**ข้อเสียของการเลี้ยงแมว**

* อาจก่อให้เกิดปัญหาด้านมลภาวะได้ เช่น กลิ่นมูลแมว เป็นต้น
* อาจก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาได้ เช่น ค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่ายา เป็นต้น

**ช่องทางการหาแมวมาเลี้ยง**

สามารถหาแมวมาเลี้ยงได้จากแหล่งต่างๆ ดังนี้

* ซื้อจากฟาร์มแมว
* รับเลี้ยงจากสถานสงเคราะห์สัตว์
* หามาเลี้ยงจากเพื่อนหรือญาติ

การเลี้ยงแมวเป็นกิจกรรมที่สร้างความเพลิดเพลินและความสุขให้กับเจ้าของเป็นอย่างมาก เพียงศึกษาข้อมูลและเตรียมการอย่างรอบคอบก็สามารถเลี้ยงแมวให้มีความสุขได้

**เคล็ดลับการเลี้ยงแมว**

* ควรให้ความรักและความเอาใจใส่แก่แมวอย่างสม่ำเสมอ
* ควรฝึกสอนแมวให้เชื่อฟังคำสั่ง เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
* ควรพาแมวไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคเป็นประจำ
* ควรหมั่นทำความสะอาดบ้านอยู่เสมอ เพื่อกำจัดกลิ่นมูลแมวและป้องกันโรคติดต่อ

การเลี้ยงแมวเป็นกิจกรรมที่ต้องใช้ความอดทนและความเข้าใจ หากสามารถเลี้ยงแมวได้อย่างเหมาะสมแล้ว แมวจะเป็นสัตว์เลี้ยงที่แสนรักและเป็นเพื่อนคู่ใจที่ดีให้กับเจ้าของ

โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย รั้วแรงดึง
 ลวดหนาม ตาข่ายถัก